ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 20-05-2023, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,803 ครั้ง ใน 34,093 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ถ้าหากว่ามีสิ่งหนึ่งประการใดที่เข้ามาสัมผัส แล้วเรามีความจำเป็นที่จะต้องปฏิสัมพันธ์ด้วย ก็จะค่อย ๆ คลายกำลังใจออกมาด้วยความระมัดระวัง ถ้าหากจำเป็นที่จะต้องติดต่อพูดคุย ก็เอาสติจดจ่ออยู่เฉพาะหน้าเสมอ ไม่ให้เผลอหลุดไปไหน หลังจากที่หมดธุระแล้ว ก็จะรีบกลับเข้าไปสู่อารมณ์เดิมของตน ก็คือกลับเข้าไปอยู่ภายในอารมณ์ของ "ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน" ต่อไป

ถ้าหากว่าทำได้ถึงระดับนี้ ท่านทั้งหลายถึงจะมีโอกาสชนะกิเลสได้บ้าง ไม่เช่นนั้นแล้วทำมาเท่าไรก็ไม่เพียงพอ เผลอสติปล่อยให้กิเลสชักจูงไป ทำมาเท่าไรก็โดนกิเลสเอาไปกินเสียหมด แถมกิเลสยังมีความสามารถพิเศษอีกด้วย ก็คือเมื่อตัวเราภาวนาแล้ว ถ้าไม่รู้จักเอากำลังนั้นไปพิจารณา กิเลสก็จะฉกฉวยกำลังสมาธินั้นไปฟุ้งซ่าน ในเรื่องของ รัก โลภ โกรธ หลง แทน

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า หลังจากเราภาวนาแล้วทิ้งไปเฉย ๆ เมื่อถึงเวลา รัก โลภ โกรธ หลง ปรากฏขึ้น จะรุนแรงแข็งกล้ามากเป็นพิเศษ จนกระทั่งเราอยู่ในลักษณะของการ "เอาไม่อยู่" แล้วก็ต้องไหลตามกระแสของ รัก โลภ โกรธ หลง ไป หลายท่านก็ละเมิดศีล ละเมิดธรรม เสียผู้เสียคนไปเลย ก็เพราะว่าเราอยู่ในลักษณะของการเลี้ยงโจรให้มาปล้นเราเอง หรือว่าเลี้ยงเสือให้มากัดเราเอง..!

เพราะว่าเมื่อจิตของเราสงบ มีกำลัง แต่เราไม่ได้เอาไปพิจารณาวิปัสสนาญาณให้รู้แจ้งเห็นจริง กำลังส่วนนั้นก็จะโดนกิเลสฉกฉวยเอาไปใช้งานแทน จึงฟุ้งซ่านได้อย่างเป็นหลักเป็นฐาน เป็นงานเป็นการ เราไม่สามารถที่จะรั้งเอาไว้ได้ ก็กลายเป็นจิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตก จนเป็นเรื่องปกติ


แต่ถึงท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะรู้จักใช้การพินิจพิจารณา จนกระทั่งสภาพจิตของเราใช้กำลังสมาธิไปมากพอ ก็จะเริ่มรู้สึกว่า "เฝือ" คือการพิจารณานั้นเริ่มไม่ชัดเจนแล้ว เราก็รีบกลับมาภาวนาใหม่ เมื่อกำลังของการภาวนาทรงตัวแล้ว เราก็กลับไปพิจารณาใหม่ ให้ทำสลับกันไป สลับกันมาดังนี้ ก็จะมีความก้าวหน้ามากขึ้น

แต่ส่วนสำคัญก็คือ กำลังสมาธิของท่านนั้น อย่างน้อยต้องปฏิบัติให้ถึงระดับรู้ลมหายใจเข้าออกและคำภาวนาโดยอัตโนมัติ ก็คือไม่ต้องบังคับก็เป็นเอง ถ้าอยู่ในระดับนั้น อย่างน้อยก็คือท่านจะทรงอยู่ในปฐมฌานละเอียด ถ้าท่านสามารถพลิกแพลงเป็นฌานใช้งานได้ก็จะสุดยอดมาก แต่ถึงพลิกแพลงใช้งานไม่ได้ ก็ต้องเอาสติประคับประคอง ให้สภาพจิตอยู่ในลักษณะของการตื่นรู้ ระมัดระวังอยู่เสมอ กิเลสก็จะแทรกเข้ามากินใจของเราไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2023 เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา