ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 06-03-2023, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,912 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ด้วยความที่เห็นสามเณรหน้าไฟวันนี้แล้วเกิดความห่วงใย จึงไปนึกถึงว่า จากตัวเองเป็นเด็กมาจนถึงปัจจุบันนี้ ห่างกันแค่ประมาณ ๖๐ ปี สัญญาและปัญญาของคนทรามลงไปได้ขนาดนั้น รุ่นพ่อรุ่นแม่ของอาตมภาพนี้ไม่ค่อยได้เรียนหนังสือ แต่เขากำหนดจดจำได้ทุกเรื่อง ลูกตัวเองมีกี่คน เกิดวันไหน ? เดือนไหน ? ปีไหน ? บอกได้หมด

คน ๆ นั้นมาหา ก็สามารถบอกได้ว่าปู่ย่าตาทวดของเขาเป็นใคร ไอ้เจ้านี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร พ่อแม่แต่งงานกันเมื่อไร นี่คือสิ่งที่คนสมัยก่อนซึ่งมีสภาพจิตใจค่อนข้างสงบ การแย่งชิงในการทำมาหากินมีน้อย ก็เลยทำให้เขาทั้งหลายเหล่านี้มีสมาธิโดยปริยาย

โดยเฉพาะผู้ชายสมัยก่อนโดนบังคับเลยว่าต้องบวชอย่างน้อย ๑ พรรษา ถ้าใครไม่บวชไม่ต้องไปหาเมีย ไม่มีพ่อแม่คนไหนยกลูกให้ "คนดิบ" เขาว่าอย่างนั้น ในเมื่อได้รับการบวช การฝึกฝนขัดเกลามา จึงกลายเป็นพื้นฐานให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นมีสมาธิ จะทำสิ่งหนึ่งประการใดก็ได้เปรียบคนอื่น เพราะว่าสภาพจิตจดจ่ออยู่กับงานตรงนั้น

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2023 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา