ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ค้นคิดทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงขึ้นมา ก็เน้นในเรื่องของเกษตรทฤษฎีใหม่ ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ก็เน้นเรื่องของโคกหนองนา เพราะว่าพื้นฐานบ้านเราจริง ๆ อยู่ได้ด้วยการเกษตร ไม่ว่าจะโรงงานอะไรก็ตาม ถ้าไม่มีพืชผลการเกษตรจะไปได้อย่างไร จะเอาผลผลิตที่ไหนมา โดยเฉพาะข้าวที่จำเป็นต้องกิน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ส่วนที่ผมทำเอาไว้ ที่ดูแล้วก็คือปัจจุบันนี้ยังเป็นแค่แปลงสาธิตเวลาคนมาดูงานเท่านั้น เพราะว่าส่วนหนึ่งถ้าไม่ใช่ตนเองมีเรือกสวนไร่นาอยู่แล้ว ก็ไม่ได้สนใจที่จะทำ เห็นว่าเป็นงานยาก ทำแล้วไม่เท่ ตากแดดตัวดำ ต้องทำงานในห้องปรับอากาศเท่านั้น
ซึ่งแนวคิดแบบนี้มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณแล้วครับ ถึงได้มีคำว่า "สิบพ่อค้าไม่เท่าหนึ่งพระยาเลี้ยง" สอนลูกให้พยายามรับราชการไว้ ถึงเวลาจะได้เป็นใหญ่เป็นโต สอนได้ครับ แต่เด็กเอาไหม ? โดยเฉพาะเด็กสมัยนี้ที่ก้มหน้าก้มตาเล่นแต่โทรศัพท์มือถือ เล่นแต่เกม ถ้าพ่อแม่ไม่กล้าเข้มงวดด้วย อีกไม่นานจะได้เห็นลูกหลานตัวเองเป็นคนงาน ซึ่งจะมีเจ้านายเป็นคนมอญคนพม่า น่าภูมิใจนะครับ..!
ตรงส่วนนี้ผลกระทบต่อเราคงจะมีน้อย เพราะว่าพี่น้องมอญพม่าขยันทำบุญ แต่ที่จะกระทบมากก็คือกระทบต่อญาติโยมทั้งในที่นี้และที่อื่น แม้กระทั่งที่อยู่ในต่างประเทศ คิดหาทางขยับขยายกันให้ทันนะครับ ไม่อย่างนั้นแล้วกิจการงานทั่วไปในภายหน้า อาจจะต้องสื่อสารกันด้วยภาษาพม่าหรือภาษาอังกฤษก็เป็นได้
ก่อนจบ...บอกกล่าวเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตรงนี้เลยก็คือ ผมแลกเงินดอลลาร์เป็นเงินไทยหมดแล้ว..! ขอบคุณมากครับ
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-05-2021 เมื่อ 16:54
|