ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 01-06-2022, 01:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน พระเกจิอาจารย์ส่วนใหญ่ใช้กำลังสมาธิเฉพาะตน น้อยรายที่จะขอบารมีพระ หรือว่าขอให้พรหมเทวดา ขอให้ครูบาอาจารย์สงเคราะห์ได้ ถามว่าท่านได้อภิญญา ได้สมาบัติ สามารถทรงฌานได้ แล้วยังไม่พออีกหรือ ?

ก็ต้องฟังที่หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านเล่าว่า หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค ได้รับคำสั่งหลวงปู่ปานเอาวัตถุมงคลไปเสกตลอดไตรมาส เมื่อยกกลับมา ท่านบอกว่า "ใช้ไม่ได้..ให้เอาไปเสกใหม่" หลวงพ่อเล็กก็มานั่งกุมหัว ก็เข้าสมาบัติ ๘ เต็มที่แล้ว ไม่มีอะไรเกินกว่านี้อีกแล้ว ทำไมเสกมาตั้ง ๓ เดือนยังใช้ไม่ได้ ?

ท้ายสุดในเมื่อครูบาอาจารย์สั่งให้เสกใหม่ ท่านไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็เลยขอบารมีพระสงเคราะห์ เมื่อพระท่านบอกว่าเต็มแล้ว ก็แบกไปถวายหลวงปู่ปาน ท่านบอก "เออ..ต้องอย่างนั้น" เพราะว่าลำพังตัวเราเอง ต่อให้มีความสามารถแค่ไหน ก็เต็มไปด้วยข้อจำกัด

เนื่องจากว่าคนที่ทรงอภิญญาสมาบัติจะมีระยะเวลา ทำได้มาก เวลาก็นานมาก ทำได้น้อย เวลาก็น้อย อย่างเช่นว่าอาจจะอธิษฐานให้มีอานุภาพไป ๒๐๐ ปี แล้วหลังจากนั้นล่ะ ? ไอ้พวกหลานพวกเหลนเอาไปใช้ต่อ อาจจะซวยไม่รู้ตัว เพราะว่ากลายเป็นวัตถุปกติธรรมดาชิ้นหนึ่งไปแล้ว..!

ดังนั้น...พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงถึงได้สอนพระของท่านว่า เวลาเสกวัตถุมงคล อย่าใช้ความสามารถของตัวเอง อันดับแรกเลย กราบขอบารมีพระพุทธเจ้าท่านสงเคราะห์ ถัดจากนั้นก็ขอท้าวสหัมบดีพรหม ผู้เป็นอธิบดีของพรหมทั้งปวง แล้วก็มาขอท่านปู่พระอินทร์ ผู้เป็นหัวหน้าเทวดาทั้งหมดให้ช่วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2022 เมื่อ 01:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา