ถาม : เขาทำพิธีศพแบบศาสนาคริสต์ ?
ตอบ : จะทำแบบไหนไม่เป็นไร เราทำบุญส่งให้เขาก็แล้วกัน เมื่อเช้าบอกกับโยมว่า คนตายไม่มีศาสนาหรอก ถึงเวลาตายกลายเป็นผี เขาจะดูว่าใครมีความดี คนมีความดีมาก มีกำลังบุญมาก ก็เหมือนแสงสว่างในที่มืด พอสว่างขึ้นมาเขาก็อยากจะอยู่ในที่สว่างแบบนั้น ก็มักจะมุ่งเข้าไปหา แต่ว่าน้อยคนที่จะรู้ได้ว่าผีเขามา หรือบางทีขนาดตั้งใจทำบุญให้ แต่อุทิศไม่เป็นก็ไม่ถึงเขา
อย่างเช่นบางคนไปขึ้นบท “อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตะรา อาจาริยูปะการา จะ..” ไล่ไปเรื่อย ให้พระอุปัชฌาย์ ให้อาจารย์ ไปไม่ถึงคนตายเสียที เพราะว่าโลกอื่นเขาตรงไปตรงมา ต้องให้เขาถึงจะได้ ถ้าไม่ให้เขาก็ไม่มีสิทธิ์ ถึงได้กลายเป็นว่าเวลาตายแล้วมักจะฉลาด ตอนมีชีวิตอยู่บางทีถือศาสนาอื่น ถือขนาดว่าเหยียบย่างเข้าศาสนสถานของอีกศาสนาหนึ่งถือว่าต้องลงนรก แต่พอตายแล้วเริ่มฉลาด รู้ว่าใครดี ใครมีบุญ ตอนเป็นผีฉลาดกว่าก็วิ่งไปหา
ถาม : ตอนเขาตายอยู่โรงพยาบาลค่ะ เป็นมาลาเรียลงกระเพาะ ตอนเราโทรไปเสียงนี้เหี่ยวเลยค่ะ โทรไปบอกให้เขาพุทโธ
ตอบ : ต้องบอกว่าเขาพ้นทุกข์แล้ว ตอนนี้ที่ต้องตะเกียกตะกายลำบากต่อ ก็คือพวกเราที่ยังอยู่นี่แหละ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2014 เมื่อ 02:06
|