ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 08-03-2009, 02:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,573
ได้ให้อนุโมทนา: 151,696
ได้รับอนุโมทนา 4,411,085 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒

เมื่อครู่นี้เรากล่าวถึงเรื่องการพิจารณาทุกข์ วันนี้เราจะมาดูให้รู้ว่าเรามีความทุกข์อย่างไรบ้าง ให้น้อมจิตน้อมใจกราบลงตรงภาพพระนั้น ว่านั่นคือองค์สมเด็จภควันต์ที่เสด็จมาโปรดเรา ขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้โปรดอนุเคราะห์ สงเคราะห์ให้การพิจารณาดูทุกข์ครั้งนี้ได้เห็นอย่างชัดเจน ได้รู้แจ้งเห็นจริงและยอมรับว่าร่างกายนี้โลกนี้มีแต่ความทุกข์เป็นปกติ

จากนั้นกำหนดใจมองย้อนอดีตกลับไป จากก่อนหน้านี้หนึ่งปี...สองปี...สามปี...สี่ปี...ห้าปี...สิบปี ย้อนหลังไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งกลายเป็นเด็กเล็ก จนกระทั่งอยู่ในท้องแม่ เอาแค่นั้นก่อน เพราะถ้าจะย้อนหลังมากไปกว่านั้นจะเป็นชาติที่แล้ว ๆ มา

เมื่อเราเกิดครั้งแรกก็ปฏิสนธิอยู่ในท้องแม่ พอโดนไฟธาตุของแม่เคี่ยวเข้าไปก็แยกปัญจสาขา มี ๑ ศีรษะ ๒ แขน ๒ ขา มีอวัยวะภายในภายนอกค่อยปรากฏชัดโดยสมบูรณ์ การอยู่ในท้องแม่ เราอยู่ในท่าที่นอนขด งอก่องอขิงอยู่ ปกติเรานั่งอยู่นิ่ง ๆ ก็ลำบากแย่แล้ว นี่ยังต้องอยู่ในที่คับแคบ ร้อนอึดอัด ขยับกายไม่ได้อย่างใจ ปวดเมื่อยไปหมด มันมีความสุขหรือมันมีความทุกข์ ?

จากที่นั่งนิ่ง ๆ ครู่เดียวก็เมื่อยจะแย่ นี่เราต้องทนอยู่ตั้ง ๙ เดือน ๑๐ เดือน หลังจากนั้นก็คลอดเคลื่อนจากท้องแม่ออกมา กระทบความหนัก ความหนาว ความร้อนของอากาศ ปวดแสบปวดร้อนไปทั้งกายแล้วก็ร้องไห้จ้า สิ่งนี้เป็นความสุขหรือความทุกข์ ?

ถึงเวลาหิวต้องกิน กระหายต้องดื่ม ปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะต้องเข้าห้องน้ำห้องส้วม เจ็บไข้ได้ป่วยต้องรักษาพยาบาล สิ่งเหล่านี้เป็นความสุขหรือความทุกข์ ? เราจะเห็นว่าเป็นความทุกข์ทั้งสิ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-12-2009 เมื่อ 12:09
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา