ชื่อกระทู้: อารมณ์กำหนัด
ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 20-01-2010, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,251 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default อารมณ์กำหนัด

ถาม : บางคนเขาบอกว่าขณะที่กำลังเสพกาม สามารถควบอานาปานสติไปด้วยครับ ?
ตอบ : เรื่องปกติ..ถ้าคล่องตัวจริง ๆ ก็ทำได้

ถาม : เวลาที่ตั้งใจจะรักษาศีลแปดทุกครั้ง มักจะโดนกิเลสตีหนักมาก ๆ โดนตัวกำหนัดเล่นงาน พอเราหลงตามไป สำเร็จแล้ว ก็ทรงฌานทันทีเลยครับ ทำไมเป็นแบบนั้นครับ ทั้ง ๆ ที่เราก็เพิ่งหลงคล้อยตามกิเลส แต่พอสมใจอยาก กลับลงฌาน นิ่งปุ๊บเลย ?
ตอบ : อย่างนี้เขาจึงได้เรียกว่า โลกียะ ยังข้องอยู่ด้วยโลก แต่ให้สังเกตไว้ว่า จะได้แค่ตอนนั้น หลังจากนั้นพอเลิกแล้ว ลองเข้าสมาธิครั้งใหม่ จะเข้ายากมาก เพราะในช่วงนั้นเหมือนคุณกำลังทุ่มเทกำลัง เอาเป็นเอาตายกับใครสักคน กำลังทั้งหมดจะรวมตัวอยู่ เมื่อทำอะไรต่อเนื่องไปก็จะได้ง่าย

ถาม : บางทีก็มาคิดว่า ทำไมทำให้เป็นฌานได้ ?
ตอบ : จะทำให้หลงด้วย หลงคิดว่าทำอย่างนี้แล้วเข้าท่า ในส่วนของความดีก็มีส่วนของความดี ในส่วนของความไม่ดีก็มีส่วนของความไม่ดี จะปนกันไม่ได้ เราต้องแยกแยะให้ออก ถ้าเราสามารถทรงฌานได้ ก็เป็นอานิสงส์ในส่วนของสมาธิ แต่ในขณะเดียวกัน เวลาที่เราเกลือกกลั้วกับกามฉันทะ ก็เป็นนิวรณ์เต็ม ๆ คุณเอาไปปนกันไม่ได้ คนละประเด็นกัน เพียงแต่ว่ามาไล่ ๆ กัน

ถาม : อ้าว..แล้วถ้าเกิดคนทำติดใจ เขาก็เลือกทำอย่างนี้เพื่อทรงฌานตลอด ?
ตอบ : ก็บอกแล้ว ถึงเวลาอาจจะหลงติดด้วย ด้วยการเข้าใจผิด คิดว่าทำอย่างนั้นแล้วจะดี คราวนี้ก็เป็นมิจฉาสมาธิเต็ม ๆ ตายเมื่อไรก็เป็นมหิทธิกาเปรตหรือกาลกัญจิกอสุรกาย

ถาม : อ้าว..แล้วการทรงสมาธิ ไม่ส่งให้เขาเป็นพรหมหรือครับ ?
ตอบ : นั่นเป็นมิจฉาสมาธิ

ถาม : นึกไปนึกมา บางทีตอนทำ ๆ อยู่ เราก็ทรงฌานอยู่ ?
ตอบ : ไม่ได้บอกว่าทรงฌานไม่ได้นี่

ถาม : พยายามต้านเต็มที่ครับ ควบทุกลมฌานเลย แต่ก็ยังทำต่ออยู่ ?
ตอบ : แสดงว่ารู้ตัว แต่อยาก..

ถาม : กะจะให้มันหยุด แต่ก็ไม่พาเรากลับ สุดท้ายพาเราตกเหว ก็เลยมาสงสัยไปว่า เอ..ถ้าอย่างนี้เราอุปาทานไปเองหรือเปล่าว่าเราเข้าฌาน ?
ตอบ : ถ้ากำลังมีมากพอ จะต้องหยุดได้

ถาม : อีกรูปแบบหนึ่งของมาร ?
ตอบ : อ๋อ...ไม่ใช่อีกรูปแบบหนึ่ง แต่เป็นรูปแบบปกติเลย เพราะเขามาในข้อสอบ ๔ แนว รัก โลภ โกรธ หลง เพียงแต่ว่าแตกแขนงออกไปเป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน ก็แล้วแต่เขา

ถาม : อารมณ์อย่างนี้ ถ้าทรงฌานจนชิน เผลอหลุดไปนี่ คนละเรื่องกันเลย ?
ตอบ : ไม่ต้องเสียเวลามานึกหรอก ตอนนั้นฟุ้งจนเอาไม่อยู่..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-04-2014 เมื่อ 19:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา