ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 13-01-2022, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,585 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อประคับประคองศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์แล้ว ยังต้องทำความเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างจริงใจ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าหรือว่าลับหลัง เป็นความเคารพที่ออกจากใจมาจริง ๆ เพราะเห็นคุณเห็นประโยชน์ และท้ายที่สุด มีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราต้องตาย กำหนดเป้าหมายในชีวิตให้ชัดเจนว่า ตายแล้วเราจะไปพระนิพพานที่เดียว

ถ้าหากว่าเราสามารถที่จะรักษาอารมณ์ใจนี้เอาไว้ได้ โอกาสถอยหลังไม่มี ถ้าตราบใดที่ยังรักษาอารมณ์ใจเช่นนี้ไว้ไม่ได้ ยังไม่ถือว่าปฏิบัติจนเกิดผล มีบางท่านที่สามารถเห็นตรงจุดนี้แล้ว แต่ยังไม่มั่นคง

การมองเห็นตรงจุดนี้ ถ้าเป็นภาษานักปฏิบัติ เขาเรียกว่ามรรค ก็คือเห็นทางชัดเจนแล้ว เหลือแต่ผล ก็คือจะไปถึงปลายทางเมื่อไร ถ้าหากอย่างที่อรรถกถาจารย์เปรียบเทียบไว้ ก็คือ เหมือนกับบุรุษผู้หนึ่งก้าวข้ามลำธารเล็ก ๆ เท้าหนึ่งไปอยู่ฝั่งโน้น อีกเท้าหนึ่งยังเหยียบฝั่งนี้ รอแค่ชักเท้าหลังก้าวตามเท้าหน้าไปก็เป็นผลแล้ว

ดังนั้น...ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตาเราเห็น หูเราได้ยิน จมูกเราได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส ใจครุ่นคิด ต้องให้เห็นความไม่เที่ยง เห็นความเป็นทุกข์ เห็นความไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายเป็นตัวเป็นตนได้ ถ้าสามารถเห็นอย่างนี้ได้มากเท่าไร ความยึดมั่นถือมั่นจะน้อยเท่านั้น แล้วท้ายที่สุดก็ปล่อย วาง สลัด ตัด ละ หลุดออกจากวงจรการเวียนว่ายตายเกิดไปได้

ดังนั้น...การที่ศรเพชร ศรสุพรรณ หรือว่าไวพจน์ เพชรสุพรรณเสียชีวิตลงก็ดี ถือว่าเป็นไปตามปกติของโลก ก็คือความไม่เที่ยง ไปสร้างความทุกข์ให้เกิดขึ้นแก่ญาติพี่น้อง หรือผู้ที่เคารพนับถือ ตลอดจนกระทั่งมิตรรักแฟนเพลง

แต่ขณะเดียวกัน ถ้าหากว่าไปยึดถือในตัวในตน ก็เห็นชัด ๆ อยู่แล้วว่ายึดไม่ได้ ท้ายสุดก็โดนเผา อย่างเก่งก็เหลืออัฐิอยู่กองหนึ่ง นาน ๆ ไป แม้กระทั่งอัฐิที่เก็บไว้ก็ผุพัง สลายตัวไป ไม่มีอะไรให้ยึดมั่นได้เลย

ถ้าเราสามารถมองเห็นในลักษณะอย่างนี้อยู่ตลอดเวลา ก็ตั้งเป้าไว้เลยว่าตายเมื่อไร เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว ถ้ารักษากำลังใจเช่นนี้เอาไว้ เช้าสัก ๑ รอบ เย็น ๑ รอบ ไม่ต้องมาก ๕ นาที ๑๐ นาทีก็พอ ตายจากชาตินี้ ท่านทั้งหลายก็สามารถไปพระนิพพานได้

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-01-2022 เมื่อ 08:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา