ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 12-11-2021, 23:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,493
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,392 ครั้ง ใน 34,081 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ อีกสักครู่ก็จะมีการเทศน์สอนนาค เนื่องจากกระผม/อาตมภาพเลื่อนการบวชจากวันที่ ๑๔ มาเป็นวันที่ ๑๓ เพราะว่าทิดกวาง (กำพร พิเชฐสกุล) ที่เป็นพี่เลี้ยงในการสอนขานนาคแจ้งว่า นาคทั้งหมดท่องคำขานนาคได้คล่องแคล่วดีแล้ว จึงตัดสินใจให้บวชเร็วขึ้น จะได้ไม่ไปชนกับงานอื่น ๆ ในวันที่ ๑๔

ในเรื่องของการขานนาค บางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องบังคับกันด้วย ? ทำไมหลายวัดครูบาอาจารย์ท่านบอกให้ว่าตามทีละคำ ? ก็เพราะว่าในเรื่องของการบวชนั้น นาคที่จะบรรพชาอุปสมบท ต้องไปร้องขอกับคณะสงฆ์ ให้ช่วยยกตนขึ้นเป็นอุปสัมบัน คือผู้ที่มีศีลเสมอกัน ในเมื่อระเบียบการบวชกำหนดเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า เราต้องไปร้องขอต่อคณะสงฆ์ ก็แปลว่าต้องว่าเอง ไม่ใช่คนอื่นสอนให้ว่าตาม ถ้าคนอื่นสอน อาจจะเป็นการบังคับขืนใจ บังคับให้ตนเองบวชก็ได้ แล้วอีกประการหนึ่งก็คือ เป็นการทดสอบศรัทธาของเราด้วย ว่ามีความจริงใจที่จะบวชสักเท่าไร

เรื่องนี้ผมอยากจะยกครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง คือหลวงปู่จันทา ถาวโร วัดเขาน้อยวังทรายพูน หลวงปู่จันทาไม่รู้หนังสือแบบคนโบราณ ก็คือไม่ได้เรียน อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ เมื่อตั้งใจบวชขึ้นมาก็ต้องไปอยู่วัด ให้พระพี่เลี้ยงค่อย ๆ บอกให้จดจำขั้นตอนและท่องขานนาค ตั้งแต่การขอศีลจนกระทั่งคำขอบรรพชาอุปสมบททั้งหมด ใช้วิธีเดียวกับที่โบราณต่อความรู้ หรือต่อเพลง ต่อวิชาให้ ด้วยการบอกทีละประโยค จนกระทั่งท่องจำได้แม่นยำดีแล้ว จึงค่อยบอกประโยคต่อไปให้

หลวงปู่จันทาใช้เวลาในการซ้อมขานนาคอยู่ ๘ เดือน..! กว่าที่จะท่องจำได้ทั้งหมด ถ้าไม่ใช่คนที่มีศรัทธาตั้งใจจะบวชจริง ๆ รับประกันได้ว่าหนีกลับ
ไปนอนที่บ้านนานแล้ว..!

ดังนั้น...การที่พวกเราบวชก็คือ การที่เราไปร้องขอต่อคณะสงฆ์ นอกจากต้องว่าด้วยตนเองแล้ว ยังต้องเสียงดังฟังชัด ได้ยินครบถ้วนทุกรูปที่อยู่ในสังฆกรรมนั้น ไม่ใช่ไปกระซิบให้พระอุปัชฌาย์ฟังกันอยู่แค่ ๒ คน ซึ่งในเรื่องนี้บางทีก็เป็นการคัดคนในระดับหนึ่ง ก็คือบุคคลที่ขาดศรัทธา ขาดความอดทน ขาดความพากเพียร ก็ไม่อยากจะบวชที่วัดท่าขนุน เพราะว่าลำบากในการที่ต้องมาฝึกซ้อมขานนาค จึงไปหาวัดอื่นที่พระอุปัชฌาย์อาจารย์คอยนำ คอยบอกให้ทีละประโยค ซึ่งผิดหลักเกณฑ์ในการบวช แต่สมัยนี้ก็ไม่ค่อยที่จะถือสากัน ในเมื่อเป็นการคัดกรองผู้คนในระดับหนึ่ง จึงทำให้พระวัดท่าขนุนค่อนข้างจะมีคุณภาพ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-11-2021 เมื่อ 21:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา