ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 05-11-2021, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,403,766 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จะว่าไปแล้ว ผีก็เหมือนกับคนจน หรือเปรียบเหมือนกับขอทาน แต่งตัวดีที่สุดก็คือแต่งตัวแบบคนจนหรือขอทานนั่นเอง เพราะว่าเป็นผู้ที่มีบุญน้อย ผลบุญส่งผลให้ดีที่สุดได้แค่ที่เราเห็นแล้ววิ่งหนี ผลบุญยิ่งสูงเท่าไร หน้าตาก็ยิ่งสะสวยมากเท่านั้น อยากให้พวกท่านได้เห็นนางฟ้าปลายแถวสักคนหนึ่ง คือนางฟ้าปลายแถวระดับสุดกู่ปลายตะโกน ถ้าลงมาเป็นคนนี่ รับประกันได้ว่าประกวดนางงามจักรวาลได้สบาย นั่นแค่ปลายแถวที่บุญน้อยแล้วนะ..!

คราวนี้พอผีมาหาเรา เพราะว่าต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการส่วนกุศล เราเองเปรียบเหมือนกับเศรษฐี ขอทานมาต้องการเงิน เศรษฐีมีความจำเป็นที่ต้องกลัวขอทานหรือไม่ ?

เมื่อเข้าใจตรงจุดนี้ กระผม/อาตมภาพเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเลิกกลัวผีไปตอนไหน ก็คือพอรู้แล้วว่าความจริงเป็นอย่างนี้ คือผีที่มาหาเรานั้น เขาทำได้สวยที่สุดเต็มบุญของเขาแล้วได้แค่นั้นเอง ก็เลยเลิกกลัวไปโดยปริยาย รู้ว่าตัวเองกลัวตั้งแต่เมื่อไร ? ก็คือตั้งแต่รู้ภาษาก็กลัวผีแล้ว แต่ตอนเลิกกลัวนี่ บอกไม่ถูกว่าเลิกไปตอนไหน

จำได้ว่าตอนนั้นไปธุดงค์ที่บึงลับแล ไปกัน ๔ - ๕ รูป มีทิดกอล์ฟ (ศราวุธ วัฒนะโชติ) อดีตเจ้าอาวาสวัดพุทธบริษัทอยู่รูปหนึ่ง ก็ไปทำแคร่นอน เพื่อป้องกันพวกบรรดาสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะสัตว์เลื้อยคลานเล็ก ๆ อย่างพวกแมงป่อง ตะขาบ หรือว่างูเงี้ยวเขี้ยวขอ โดยเอาไม้ไผ่มาทำเป็นแคร่นอน

กลางคืนกำลังนอนภาวนาอยู่ประมาณ ๕ ทุ่ม แคร่พังโครมลงไป..! กำลังภาวนาอยู่ กำลังใจดีมาก ก็เลยไม่อยากที่จะขยับ แต่คราวนี้แคร่ที่พังนั้น พังทางด้านหัวนอน ก็กลายเป็นหัวทิ่มดิน ตีนชี้ฟ้า น้ำหนักก็ถ่วงไหลลงไปเรื่อย..ไหลลงไปเรื่อย จนหัวค้ำพื้น จึงตัดสินใจคลายสมาธิออกมา เพื่อที่จะซ่อมแคร่นอนให้ดี

แต่พอขยับลุกขึ้นก็เห็นพระธุดงค์รูปหนึ่ง ยืนอยู่ใกล้ ๆ คือ ทางด้านหัวนอนนั้น หันเข้าหาก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ซึ่งสูงท่วมหัวเลย เป็นการประกันความเสี่ยงว่า ถ้ามีสัตว์ร้ายมีอะไรมา ก็ป้องกันไปได้ด้านหนึ่ง พระรูปนั้นยืนเหมือนกับพิงหินอยู่ เห็นชัด ๆ ว่าเป็นพระธุดงค์แบบสายวัดป่า ก็คือห่มจีวรสีกรักค่อนข้างเข้ม ก็คิดว่า "เอ๊ะ...พระท่านมาตั้งแต่เมื่อไร ? ทำไมเราไม่รู้ เดี๋ยวจะชวนท่านสนทนาหน่อย ว่าเป็นใครมาจากไหน"

พอดีกับที่ทิดกอล์ฟซึ่งตอนนั้นยังบวชอยู่ ได้ยินเสียงแคร่พังลงไปนานหลายนาทีแล้ว พระอาจารย์ยังเงียบฉี่ ไม่รู้สึกรู้สา ก็เลยส่องไฟมา ส่องมาไม่ส่องเปล่า มีการแกว่งไฟฉายด้วย กระผม/อาตมภาพก็เลยเห็นพระธุดงค์รูปนั้นเต้นระบำได้ ก็คือมองดี ๆ กลายเป็นว่าไม่ใช่พระ แต่เป็นเงาของตัวเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-11-2021 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา