ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 15-05-2022, 21:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,826 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกสิ่งหนึ่งที่จะกระทำในช่วงก่อนพุทธาภิเษกก็คือ การบวงสรวงไหว้ครูประจำปี พระภิกษุสามเณรของเรา จนกระทั่งญาติโยมทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ครูนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งในชีวิตของเรา ครูคนแรกคือแม่ ครูคนที่สองคือพ่อ ครูบาอาจารย์ที่อบรมให้การศึกษาของเรานั้น ถือว่าเป็นครูคนที่สาม

ดังนั้น...จึงมีบุคคลกล่าวถึงคุณครูทั้งหลายว่า เป็นผู้มีพระคุณที่สาม บางท่านอาจจะไม่รู้ว่า "พระคุณที่สาม" นั้นมาจากอะไร ก็ขอให้เข้าใจไว้ตามที่กระผม/อาตมภาพได้บอกกล่าวไปแล้ว

คราวนี้การไหว้ครูตามสายกรรมฐานตั้งแต่ยุคหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มาจนถึงยุคของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง พระท่านให้ใช้วันเสาร์ที่ตรงกับขึ้น ๕ ค่ำ จะเป็นเดือนใดก็ได้ ถ้าหากว่าตรงกับเดือน ๕ ได้ก็ยิ่งดี เขาเรียกกันว่ากระทิงวัน เป็นวันที่แรงขึ้นเป็น ๒ เท่า หรือว่าถ้าเป็นวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะโรง ก็ยิ่งดีหนักเข้าไปอีก เรียกว่าตรีวัน คือวัน เดือน ปี ตรงกันทั้งหมด ก็ถือว่าจะเป็นวันที่แรงขึ้นเป็น ๓ เท่าของวันเสาร์ ๕ ปกติ

ถ้าหากว่าในวันเสาร์ ๕ นั้น เราติดภารกิจสำคัญจริง ๆ ไม่สามารถจะทำการไหว้ครูประจำปีได้ ท่านให้จัดงานไหว้ครูในวันวิสาขบูชา ถ้าวันเสาร์ ๕ หรือว่าวันวิสาขบูชาเราติดภารกิจสำคัญจริง ๆ พระท่านให้จัดงานไหว้ครูประจำปีในวันมาฆบูชา

ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายได้ทราบว่า ตามสายกรรมฐานของเราที่พอจะสืบสาวไปได้ชัดเจน ตั้งแต่ยุคหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มาจนถึงยุคหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เราได้รับอนุญาตให้ไหว้ครูภายใน ๓ วันนี้เท่านั้น ถ้านอกเหนือจากนี้ แปลว่านอกสายกรรมฐาน นอกสายครูบาอาจารย์ที่ถ่ายทอดความรู้สืบ ๆ กันมา ส่วนบางท่านอาจจะมีครูหลายสาย หลายสาขาวิชา ส่วนอื่นก็ไหว้ครูไปตามสายวิชาที่ได้กำหนดเอาไว้

เหตุที่ปีนี้กระผม/อาตมภาพไม่ได้จัดงานไหว้ครูในวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ ทั้ง ๆ ที่มีอยู่ถึง ๒ วัน ก็ด้วยสาเหตุที่ว่า เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ นั้นยังแพร่ระบาดรุนแรงอยู่ การไหว้ครูที่ไม่ได้จัดอย่างเป็นทางการมาหลายปี ถ้าจัดขึ้นมาเมื่อไร ญาติโยมจำนวนเป็นหมื่นก็จะแห่มารวมกันอยู่ที่เดียว ถ้าเกิดการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ ที่เรียกกันว่า "คลัสเตอร์" ถ้าอย่างนั้นก็จะทำให้กลายเป็นจุดตำหนิของสังคมขึ้นมาทันที

หรือว่าหลายท่านที่ขาดสติสัมปชัญญะ ก็อาจจะก่อมโนกรรม วจีกรรม กายกรรม ด้วยการคิดร้าย พูดร้าย ทำร้าย ต่อสิ่งที่ตนเองก็นึกไม่ถึงว่าจะก่อให้เกิดทุกข์เกิดโทษแก่ตนในภายหลังอย่างไรบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-05-2022 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา