ดูแบบคำตอบเดียว
  #70  
เก่า 15-08-2019, 21:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จนกระทั่งไปถึงทางสามแยก ทั้งสองก็บอกแก่กันว่า “ตอนนี้เราถือเพศเป็นนักบวชแล้ว ผู้หญิงกับผู้ชายถ้ายังไปด้วยกัน จะเป็นที่ครหานินทาของผู้คน ดังนั้น..เราแยกกันเถอะ” นางภัททกาปิลานีก็เลี้ยวซ้าย พระมหากัสสปะก็เลี้ยวขวา

นางภัททกาปิลานีไปเจอสำนักภิกษุณี บวชแล้วปฏิบัติธรรมจนกลายเป็นพระอรหันต์ ส่วนพระมหากัสสปะนั้น พระพุทธเจ้าเสด็จมารับกลางทาง ประทานโอวาทให้ ๓ ข้อก็คือ ๑. ดูก่อนกัสสปะ...เธอจงตั้งอยู่ในความเกรงใจในเหล่าภิกษุทั้งหลาย ทั้งที่เป็นผู้ใหม่ ผู้ปานกลาง และผู้เก่าอย่างแรงกล้า ก็คือต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนและละทิฐิมานะของตัวเอง

๒. ดูก่อนกัสสปะ...เมื่อเธอฟังธรรม จงเงี่ยหูฟังและตั้งใจพิจารณาในเนื้อความ คือฟังแล้วต้องคิด คิดแล้วจะได้นำไปปฏิบัติด้วย

๓. ดูก่อนกัสสปะ...เธอจงอย่าละสติที่ไปในกาย ก็คือกายคตาสติ ให้เห็นชัดเจนว่าร่างกายนี้ไม่มีความดีอะไร เราสักแต่ว่าอาศัยอยู่เท่านั้น

พระมหากัสสปะจึงบวชด้วยวิธีพิลึกพิลั่นที่สุด ก็คือเรียกว่าบวชโดยการรับโอวาท ๓ ข้อ เพราะว่าท่านโกนหัวห่มจีวรมาแล้ว ท้ายสุดท่านก็บรรลุมรรคผล เป็นผู้นำในการทำสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่ ๑ จนกระทั่งทางมหายานถือว่าท่านเป็นพระสังฆราชรูปแรก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-08-2019 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา