การที่สติเราจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ ทำให้สมาธิทรงตัวได้ง่ายที่สุด เพียงแต่ว่าพวกเรามักจะเถรตรง ครูบาอาจารย์บอกแค่ไหน ตำราบอกแค่ไหน เราก็ทำแค่นั้น พลิกแพลงกันไม่เป็น
ดังนั้น..พอกระผม/อาตมภาพบอกว่า ตีลังกาภาวนาได้ คนก็ไม่ค่อยจะเชื่อกัน สมัยวัยรุ่นกระผม/อาตมภาพเล่นหกสูง เอามือเดินแทนเท้า สามารถภาวนาได้จากการเดินเป็นกิโลเมตรเลย เพราะว่าในเรื่องของการภาวนา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอิริยาบถ หรือว่าท่าทาง แต่ขึ้นอยู่กับกำลังใจของเรา ว่าทรงตัวหรือไม่ ?
เรื่องของการปฏิบัติธรรม จึงไม่ใช่เรื่องของคนเถรตรง เชื่อถือครูบาอาจารย์ไปทุกอย่าง แต่ว่าให้ปรับเอาส่วนที่เหมาะสมกับเราที่สุด ทำแล้วสมาธิทรงตัวเร็วที่สุด นำมาใช้งานกับตัวเรา หลังจากที่สมาธิทรงตัวแล้ว ก็ยังต้องรักษาเอาไว้ให้เป็น ไม่เช่นนั้นแล้วท่านทั้งหลายทำไปเท่าไร ก็ไม่เกิดผลสักที แล้วยังมีหน้ามาคุยว่าปฏิบัติธรรมมานานแล้ว..!
เรื่องของการปฏิบัตินานหรือปฏิบัติน้อยไม่ใช่สาระ สาระสำคัญคือ ทำแล้วกำลังใจ ลด ละ เลิก รัก โลภ โกรธ หลง ได้เท่าไรต่างหาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2022 เมื่อ 02:19
|