ถาม : เหมือนกับเขาเอาวัตถุมงคล..(ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นต้องใช้คำว่า ทิฏฐิวิปลาส มีความเห็นผิดไป แก้ไขยาก ถ้ามีโอกาสก็พูด ๆ บ่น ๆ ให้เข้าหูเขาหน่อยก็แล้วกัน ถ้าไม่มีโอกาส ก็อย่าเพิ่งไปพูด เดี๋ยวจะพาเราเสียไปด้วย
อาตมาเจออยู่รายหนึ่ง ถึงขนาดให้ลูกศิษย์หลอมพระพุทธรูปไปชั่งกิโลขาย พระพุทธรูปเขาหลอมเป็นแท่งทองเหลือง เอาไปชั่งกิโลขาย เขาบอกว่าพระพุทธรูปทำให้คนยึดติด นั่นเขาหลงไปได้ไกลอย่างนั้น
อย่าลืมว่าการที่เราอยู่ในโลก พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าเราต้องเคารพสมมติทางโลก เพราะสมมติทางโลกคือสมมติสัจจะ ก็คือความจริงอย่างหนึ่ง แต่เป็นความจริงโดยสมมติ ว่านี่คือรูปแทนพระพุทธเจ้า บุคคลที่จิตใจเกาะความดีขั้นแรก ก็เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่ตกไปในทางแห่งความชั่ว หลังจากนั้นค่อยก้าวเข้าทางของความดีสูงขึ้นไป..สูงขึ้นไป จนกระทั่งท้ายสุด เว้นจากการยึดเกาะแล้วก็หลุดพ้น
ไม่ใช่ว่าพอถึงเวลาแล้วเราไม่เกาะอะไรเลย ไม่เกาะอะไรเลยเราจะเอาอะไรมาปล่อย ? อัตตา ความมีตัวตน อนัตตา ความไม่มีตัวตน ถ้าเราไม่ขึ้นด้วยอัตตาคือความมีตัวตนก่อน แล้วเราจะเอาอนัตตามาจากไหน ? สองอย่างนี้เป็นเหรียญสองหน้า อย่างไรก็ต้องไปด้วยกัน
แต่นั่นเขาประเภทโลกช้ำไปเลย แล้วยังมีการรับจ้าง ถ้าบ้านไหนไม่กล้าทำ ขอให้บอก เขาจะส่งลูกศิษย์ไปทำให้เลย เห็นเขาทุบ เห็นเขาเผา เห็นเขาหลอมแล้วอาตมาใจหาย พวกนี้กว่าจะรู้ว่าตัวเองมีโทษก็ต้องรอตอนที่ตายไปแล้ว
ถาม : ห่าง ๆ ไว้เลยใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ประเภทนั้นก็อยู่ห่าง ๆ ไว้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมี และห่มเหลืองเหมือนกับอาตมาเสียด้วย เขาสอนลูกศิษย์ว่านี่เป็นสิ่งที่ทำให้ยึดติด..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2019 เมื่อ 20:04
|