เหตุที่เบื่อคน เพราะว่าความต้องการของคนไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ได้มีการคิดถึงผู้อื่นแบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องการอะไรต้องได้อย่างนั้น แล้วพอไม่ได้ก็อย่างที่เห็นว่าบางรายก็ด่าเสีย ๆ หาย ๆ ไปเลย กลายเป็นว่าตัวกระผม/อาตมภาพเองทำให้คนอื่นลงนรกโดยใช่เหตุ ก็เลยเลิกรับสังฆทานไปโดยปริยาย
บุคคลอีกประเภทหนึ่งที่น่าเบื่อยิ่งกว่านั้นก็คือ มาขอความช่วยเหลือ การขอความช่วยเหลือทั่วไปนั้นให้ได้ แต่ในการขอความช่วยเหลือ เช่น การก่อสร้าง ก็บอกแล้วว่ากระผม/อาตมภาพช่วยแค่ปีละวัดเดียว ด้วยการนำกฐินปลดหนี้ไปให้ ไม่ใช่ว่าใครมาขอก็ช่วยเขาหมด เราต้องสืบดูก่อนด้วยว่าเขาทำงานนั้นจริงหรือเปล่า ?
เพราะว่าก่อนหน้านี้เคยช่วยไปหลายวัด กลายเป็นว่าเขาเอาเงินก้อนที่เราช่วยไปนั้นเป็นตัวประกัน ก็คือมีเงินทำงานชิ้นนั้นแน่นอน แล้วตัวเขาก็ไปบอกบุญเรี่ยไรอีกต่างหาก กลายเป็นว่าเงินส่วนอื่นที่ทำบุญมาคือกำไรเข้ากระเป๋าของเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าที่จะเกิดขึ้นในวงการคณะสงฆ์ของเรา แต่ก็เกิดเป็นประจำ แล้วโดยเฉพาะถ้าคุณไม่มีความสามารถพอ แล้วจะไปสร้างทำอะไร ? ดูแลของเก่าให้ดี รักษาความสะอาดเรียบร้อยของวัด ก็สามารถเรียกศรัทธาคนได้แล้ว จะต้องไปสร้างอะไรมากมายหนักหนา ?
อีกประเภทหนึ่งก็คือ มาขอวัตถุมงคล ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ไม่ตั้งตู้จำหน่ายวัตถุมงคล ก็เพราะเห็นว่าคนเราจะไปยึดวัตถุมงคลมากกว่ายึดหลักธรรม จึงไม่ให้ตั้งตู้จำหน่าย เพิ่งจะมีเดือนนี้ (มกราคม ๒๕๖๕) ที่เริ่มให้ตั้งตู้จำหน่ายก็เพราะว่าเลิกการรับสังฆทานทางด้านบ้านเติมบุญแล้ว รายได้ส่วนอื่นที่จะมาช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายของวัดก็ไม่มี จึงจำเป็นที่จะต้องอนุญาตให้มีการตั้งตู้จำหน่ายวัตถุมงคล
แต่ก็จำหน่ายในสถานที่อันเหมาะสม ก็คือไม่ได้ไปเที่ยวต้อนชาวบ้านให้ไปซื้อหาแบบเดียวกับที่หลายวัดเขาทำกัน หลายแห่งที่กระผม/อาตมภาพไป ตั้งใจจะไปกราบพระ ตั้งใจจะไปไหว้สังขารครูบาอาจารย์ หรือว่าไปไหว้ครูบาอาจารย์ ไม่ได้พบหรอก เขาต้อนให้ไปบูชาวัตถุมงคลก่อน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2022 เมื่อ 02:30
|