ชื่อกระทู้: อัศจรรย์โลกใบนี้
ดูแบบคำตอบเดียว
  #9  
เก่า 03-06-2010, 18:00
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default


ยังมีอีกมากมายจนเขียนอย่างไรก็ไม่หมด ทุกรายวิชาบรรจุไว้ในจิตทั้งหมด ในแต่ละรายวิชาล้วนมีสาระในตัวเอง เรื่องดี สาระดี เรื่องไม่ดี สาระไม่ดี ทั้งมีทฤษฎีรองรับสาระนั้น ๆ อีกด้วย นี่เป็นเพียงตัวอย่างแห่งคลังความรู้เบื้องต้นเท่านั้น

ทั้งหมดจิตเป็นผู้กำกับพฤติกรรม ตัวเราจึงสมควรพิจารณาอย่างถ่องแท้ เรื่องของจิตจึงมีความยิ่งใหญ่ต่อสถานภาพของโลกและสัตว์โลก ต่อการสร้างหรือทำลายล้าง มีจิตเป็นนาย มีกายเป็นข้ารับใช้ ทำให้เกิดกรรมคือการกระทำ ยิ่งมากคนยิ่งมากเรื่อง เฉพาะเรื่องของเราก็รับไม่ไหวอยู่แล้ว

อันที่แท้จิตดวงนี้มีคุณอนันต์ มีโทษมหันต์ซ่อนอยู่ภายในจิตของทุกคน มีดำมีขาว มีมืดมีสว่าง ในถูกก็มีผิด ในจริงมีเท็จ ในเท็จมีจริง ผสมกลมกลืนอยู่ สุดแท้แต่ใครจะมีภูมิปัญญาอยู่ในทางใด อยู่ในโลกีย์หรืออยู่ในโลกุตระอันเป็นทางคู่ขนาน ทางหนึ่งพบแต่ความทุกข์เดือดร้อนตลอดเวลา อีกทางหนึ่งดับทุกข์พบสุขตลอด เรียกว่าทางแห่งความทุกข์ยากกับทางแห่งความสงบสุข จงเลือกเดินเอาเอง สร้างเอาเอง คิดเอาเอง นึกเอาเอง แสวงหาเอา จะเอาแบบไหน ได้กับตัวเราทั้งสิ้น

จงพิจารณาธรรมในธรรม ธรรมคือธรรมชาติ กิจทั้งมวลในจิตล้วนเป็นธรรมทั้งสิ้น ได้แก่ จิต อารมณ์ ล้วนเป็นธรรมที่บังเกิดในจิต ทั้งดีและร้าย คือการพิจารณาสภาวะแห่งความเป็นจริง ทำให้จิตมีสมาธิ สร้างสติสัมปชัญญะ

อะไรเกิดในจิต สติต้องรู้ สัมปชัญญะต้องพิจารณา ธรรมทั้งหลายซ่อนอยู่ในจิต ความสำเร็จทั้งหลายซ่อนอยู่ในความสำเร็จ ความไม่สำเร็จซ่อนอยู่ในความไม่สำเร็จ ความไม่สำเร็จซ่อนความสำเร็จเอาไว้ตลอดเวลา ค้นให้เจอ หาให้พบ นั่นคือ เราพิจารณาจิตในจิตของตัวเรา และสภาวะธรรมชาติของจิตให้ถ่องแท้

ให้พิจารณาว่ามันเป็นอย่างไร ภาวะของจิตเรานั้นเกิดอะไรขึ้น ค้นหาอกุศลและกุศลที่เกิดอยู่ภายในจิต ค้นให้พบ พิจารณาให้ได้ แล้วสิ่งใดต้องแก้ไข ก็ต้องทำการแก้ไข สิ่งใดไม่ต้องการแก้ไขก็รักษาประพฤติให้ได้ เราชำระจิตของเราให้ได้ อย่าชำระจิตของผู้อื่น จิตใครจิตมัน อย่ามัวห่วงผู้อื่น ให้ห่วงตัวเราเองก่อน แม้จิตของเรายังชำระได้ยากอยู่แล้ว หากเราคิดชำระจิตของผู้อื่นยิ่งยากลำบาก ยิ่งคนหมู่มากยิ่งยากเป็นทวีคูณ

แต่ถ้าทุกคนช่วยกันแก้ ไม่ยากเลยในการจะแก้ไขปัญหาภายในจิต ถ้าทุกคนช่วยกันแก้นิสัยของตนเอง ก็จะเป็นการสร้างชีวิตให้มีรากฐานที่ดี ก็หมายความว่า เราต้องมีความมั่นคงในดวงจิต ความมั่นคงจะมาบังเกิดอยู่ได้ ก็ต่อเมื่อมีสมาธิที่แน่นหนาไม่หวั่นไหว เสมือนบ้านที่มีรากฐานมั่นคง แม้จะมีอะไรมากระทบ บ้านก็ไม่สั่น บ้านก็ไม่คลอน จิตก็เช่นกัน ไม่หวั่นไหว จงสร้างรากฐานของจิตให้มั่นคง ทำทาน ศีล ภาวนา สำรวมกาย วาจา ใจ เจริญสมาธิ ให้บังเกิดสติสัมปชัญญะให้สถิตอยู่ในจิตตลอดเวลา

บุคคลที่ได้ออกปฏิบัติร่วมกันที่สมควรจะเอ่ยนาม
๑. นายอภิรัฐ ปานเทพอินทร์
๒. นายอภิวรรธน์ สงวนงาม
๓. นายบัญญัติ แสงประเสริฐ
๔. นางสาวศศมน ยงยุทธ

สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านในการจัดทำหนังสือเล่มนี้ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพื่อเป็นธรรมทาน ขออำนาจคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงอภิบาลประทานพรให้ท่านพบสัมมามรรคา เดินตามรอยพระพุทธองค์สู่นิพพาน ขออนุโมทนาผลบุญกุศลนี้โดยถ้วนหน้ากันทุกท่าน เทอญ

(นายฐานุพงศ์ สิรสุขสวัสดิ์)
ผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 16-06-2010 เมื่อ 05:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 103 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา