เมื่อรวมกันขึ้นมาแล้ว ก็ย่อมมีกำลังที่สูงพอ พาให้เราหนีห่างจากเคราะห์กรรมที่พยายามจะตามทวงอยู่ ก็แปลว่าสามารถรอดพ้นไปได้ชั่วขณะหนึ่ง จะกี่เดือนกี่ปี ก็แล้วแต่เวรกรรมที่เราสร้างไว้มากน้อยเท่าไร
ถ้าเรายังเป็นผู้ไม่ประมาท กระทำความดีเหล่านี้ให้ต่อเนื่องไปได้ เราก็สามารถหนีห่างจากเคราะห์กรรมไปเรื่อย จนกระทั่งเราสร้างความดีท่วมท้นล้นกรรมชั่ว เหมือนกับเติมน้ำจืดลงไปจนน้ำเค็มไม่มีรสแล้ว
ท้ายสุดถ้าเราสามารถทรงกำลังใจของเรา ในลักษณะรู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว ไม่เกาะร่างกายตนเอง ไม่เกาะร่างกายคนอื่น ไม่เกาะวัตถุธาตุสิ่งของใด ๆ และไม่เกาะในโลกนี้อีก เราก็สามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้
ดังนั้น...ท่านทั้งหลายจงตั้งจิตตั้งใจด้วยความเลื่อมใสในคุณพระศรีรัตนตรัย ตั้งใจน้อมจิตน้อมใจฟังพระอภิธรรมที่พระสงฆ์หมู่ใหญ่จะทำการสาธยายมา ต่อให้ฟังไม่เข้าใจก็ให้รู้ว่านั่นเป็นธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เอาใจจดจ่ออยู่ที่เสียงสาธยายธรรมนั้น แล้วปฏิบัติตามเสียงที่อาตมาจะบอกกล่าวเป็นระยะไป เพื่อที่ช่วยให้ท่านทั้งหลายสร้างเหตุที่สมควร จะได้มีผล คือหลุดพ้นจากเคราะห์กรรมได้ชั่วคราว
ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านหันหน้าเข้าหาหมู่สงฆ์ ตั้งอกตั้งใจฟังพระอภิธรรม ๗ บท ต่อด้วยมาติกา หลังจากนั้นจะบอกว่าให้วางกำลังใจอย่างไร ตอนพระท่านทำบังสุกุล..นิมนต์พระสวดพระอภิธรรมได้เลยครับ
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2022 เมื่อ 03:18
|