เพราะว่าความเป็นพระเป็นเณรของเราเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด พูดง่าย ๆ ก็คือว่า กว่าที่จะบวชมายากเย็นแสนเข็ญ แล้วอยู่ ๆ คำพูดประโยคเดียว ทำให้เราขาดความเป็นพระเป็นเณรไปนี่ ต้องบอกว่าโง่ขนาด..! ดังนั้น..วันนี้ที่กระผม/อาตมภาพตอบกลับไปคำเดียวว่า "รอ" ก็คือรอให้ตายเท่านั้น จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาปรึกษาพระอีก..!
บางคนก็ปรึกษาหารือพระในลักษณะที่กระผม/อาตมภาพใช้คำว่า "จับพระเป็นตัวประกัน" ถามว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ควรที่จะทำหรือไม่ ? ถ้ากระผม/อาตมภาพตอบไปว่า "ควรทำ" เขาก็จะบอกว่า "หลวงพ่อเล็กบอกว่าทำได้" แต่ถึงกระผม/อาตมภาพบอกไปว่า "ไม่ควรทำ" เขาก็จะทำ เพราะว่าตัดสินใจจะทำอยู่แล้ว อย่างนั้นมาปรึกษาทำอะไร ?ไอ้พวกจับพระเป็นตัวประกันนี่มีเยอะมาก..!
พอมาถามกระผม/อาตมภาพ ก็มักจะได้คำตอบว่า "ให้ใช้หัวแม่ตีนข้างซ้ายคิดดูก็จะได้คำตอบแล้ว..!" ซึ่งหลายท่านก็อาจจะโกรธไปเลย แต่ถ้าเขารู้จักตรองก็จะรู้ว่าเป็นคำถามที่ไม่สมควรที่จะถามพระ ก็ต้องแล้วแต่ปัญญาของเขา เพราะว่าบางคนใช้คำพูดเบา ๆ แล้วไม่รู้เรื่อง บางคนนี่ขนาดด่าสาดเสียเทเสียก็ยังหน้าด้านตื๊อต่ออยู่นั่นแหละ อย่างที่บางท่านก็คงจะเห็นแล้ว กำลังฉันเพลอยู่ เขาก็ยังจะถาม พอบอกว่า "พระกำลังฉันเพลอยู่" เขาบอกว่า "ไม่เป็นไรค่ะ..ขอ ๕ นาที" ไอ้ไม่เป็นไรนะ..เรื่องของมึง..แต่กูนะเป็น..!
ในเรื่องของพระภิกษุสามเณรของเรา ไม่ใช่ว่าจะเมตตาได้ทุกเรื่อง พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้แค่เมตตา กรุณา แต่ให้มุทิตา และโดยเฉพาะอุเบกขาไว้ด้วย ต้องเลือกใช้ให้ถูกกับกาลเทศะ ไม่ใช่เมตตากรุณาอย่างเดียว จนตัวเองเดือดร้อนเอง หลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหมาะสมกับทุกสถานการณ์ สำคัญที่เราใช้ถูกหรือเปล่าเท่านั้นเอง
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2023 เมื่อ 02:46
|