กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า "ไกลออกจะปานนั้น หนทางก็ยากออกจะปานนั้น นิมนต์แล้วท่านจะมาหรือครับ ?" พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกว่า "พวกแกไปบอกว่ามหาวีระนิมนต์ แล้วท่านจะมา" ตีรถไป ๑ วันกับ ๑ คืน ถึงวัดหลวงพ่ออุตตะมะ ตอนนั้นยังเป็นวัดเก่าอยู่ ที่จมน้ำอยู่ตอนนี้ พอได้ยินว่าพระมหาวีระ วัดท่าซุง นิมนต์ หลวงพ่อท่านรับปากทันทีเลย "วันไหนบอกมา เดี๋ยวจะไปให้"
พอกราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่าเป็นเพราะอะไร ? ท่านบอกว่า "รู้จักกันดี ตั้งแต่สมัยที่อยู่วัดปากคลองมะขามเฒ่า" พวกเราคงจะเคยฟังประวัติหลวงพ่อฤๅษีว่า ไปอยู่ศึกษาวิชาการที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า แล้วก็เลี้ยงหมาไว้ฝูงใหญ่ ที่มีท่านสิงห์ดอกเป็นหัวหน้า ช่วงนั้นหลวงพ่ออุตตะมะเคยไปจำพรรษาที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตกลงว่าครูบาอาจารย์ท่านรู้จักสนิทสนมกันมาตั้งแต่ยุคโน้น ส่วนพวกเราไม่รู้เรื่องอะไรเลย
กระผม/อาตมภาพแวะมาขอความรู้จากหลวงปู่สาย เพราะสอบถามท่านแล้วว่า "เส้นทางทางด้านนี้ หลวงพ่อเคยธุดงค์ไหมครับ ?" ท่านก็บอกว่า "เดินจนไม่มีที่ให้เดินแล้ว" แล้วก็แนะนำว่าควรที่จะไปทางไหน ใกล้ไกลแค่ไหนแล้วต้องพัก ซึ่งตรงจุดนี้สำคัญมาก
เพราะว่าภายหลังกระผม/อาตมภาพเดินเข้าไปในทุ่งใหญ่นเรศวร ไปเจอท่านอาจารย์เป้า (พระครูใบฎีกาอุเทน อุฏฐานโรจโน) จากวัดเศวตฉัตรวรวิหาร ท่านธุดงค์ไป อดอาหารจนไม่มีแรงจะเดิน จึงได้เอาอาหารถวายท่าน เหตุที่ท่านอดอาหารก็เพราะว่า ไม่เคยถามหนทางจากใคร เลยไม่รู้ว่าแต่ละจุดนั้นต้องเดินใกล้ไกลเท่าไร บางแห่งเราเดินจนค่ำแล้วก็ยังหยุดไม่ได้ ต้องลากยาวไปจนถึง ๒ - ๓ ทุ่ม จึงจะถึงที่พักได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-06-2022 เมื่อ 01:37
|