ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 14-05-2022, 17:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,250 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บุคคลที่ตั้งใจจะก้าวพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน ถึงวาระสุดท้ายแล้วก็คือ เคารพสมมติทางโลกเป็นอย่างยิ่ง รู้ว่าสิ่งนี้ดีเราก็ทำ รู้ว่าสิ่งนี้ชั่วเราก็ละ แต่ไม่เกาะทั้งดีและชั่ว ในเมื่ออะไรก็ไม่เกาะ ก็ต้องหลุด ไม่มีอะไรให้เกาะแล้วนี่

เพราะฉะนั้น...คาถาบทนี้เก็บเอาไว้ใช้งาน รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว ในเมื่อไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว แล้วทำไมยังต้องทำดี ละชั่วอยู่ ?

อันดับแรกเลย สิ่งที่ทำดีนั้นจะส่งผลดีต่อเราโดยส่วนเดียวในภายภาคหน้า ถ้าพลาดจากเป้าหมาย เราไปอยู่ในภพภูมิที่ต่ำกว่า ก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดี ๆ ทั้งสิ้น

ประการที่สอง เราทำความดีเอาไว้ โดยเฉพาะในศีล ในสมาธิ ในปัญญา จะเป็นเนติคือแบบอย่างแก่คนรุ่นหลังที่ได้เลียนแบบและทำตาม ไม่ได้เอาตัวรอดคนเดียว ยังเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วย

ส่วนสิ่งทั้งหลายที่เป็นความชั่วนั้น ก็คือมีแต่จะสร้างบาปหาบทุกข์ ก่อให้เกิดความทุกข์ยากนานับประการแก่ชีวิตของเรา ทั้งในชาตินี้และชาติต่อ ๆ ไป ดังนั้น...เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องละชั่ว

ในเมื่อดีก็ทำ ชั่วก็ละ ไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว เราถึงมีโอกาสหลุดพ้นจากกองทุกข์ไปสู่พระนิพพานได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2022 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา