พระอาจารย์กล่าวว่า "คนเราถ้าไม่รู้จักพอก็ต้องดิ้นรนเรื่อยไป อย่างที่เมื่อครู่ได้บอกแล้ว ไม่อยากอยู่บ้านเลย...นึกถึงพวกไม่มีบ้านดูบ้าง ไม่อยากทำงานที่นี่เลย...นึกถึงคนตกงานบ้าง ถ้าเรารู้จักพอ ทุกอย่างจะดีหมด เพราะว่าสภาพจิตจะดิ้นรนน้อยลง
หลวงปู่มหาอำพันท่านบอกว่า "ความไม่พอพาจนเป็นคนเข็ญ พอแล้วเป็นเศรษฐีมหาศาล" คนไม่พอมักจะให้อะไรใครไม่ได้ ก็เท่ากับเป็นคนจน แต่คนรู้จักพอ มีอะไรก็ให้คนอื่นได้เท่ากับเป็นคนรวย "จนทั้งนอกจนทั้งในไม่ได้การ ต้องคิดอ่านแก้จนเป็นคนพอ" พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหน ทำงานอะไร ฐานะแบบไหน พยายามให้มีความสุขกับสิ่งที่ตนเองมี
ยินดีในสิ่งที่ตนได้ พอใจในสิ่งที่ตนมี จะเป็นเศรษฐีในเรือนยาจก ไม่ยินดีในสิ่งที่ตนได้ ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี ก็เป็นแค่วณิพกในเรือนเศรษฐี อันนี้หลวงปู่จันทร์ หรือหลวงปู่พระพุทธพจนวราภรณ์ วัดเจดีย์หลวง สมัยยังอยู่วัดป่าดาราภิรมย์ ท่านบอกกับอาตมาเอง เพราะว่าตอนนั้นอยู่วัดเทพศิรินทราวาส พระธรรมยุตเขาไปถึงกันหมด ตอนนั้นท่านยังเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์อยู่ ตอนนั้นท่านเป็นชั้นเทพ
ดังนั้น..ถ้าหากว่าเราขึ้นรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้า เราก็มีความสุขได้ อาตมาเองโหนรถมาเสียเยอะแล้ว ถึงเวลาเห็นคนแก่ เห็นผู้หญิง เห็นคนท้องขึ้นรถมาก็รีบลุกให้นั่ง เห็นเด็กบางทีก็จับนั่งใส่ตักเลย...ไปด้วยกัน แล้วเด็กทุกคนไม่กลัวอาตมาตั้งแต่สมัยโน้นแล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2021 เมื่อ 15:32
|