"ถ้ากรอบแนวคิดหลัก ๆ ลงตัวกันแล้ว ต่อไปก็จะเป็นการนำเสนอว่าเข้าไปแล้วจะเป็นลักษณะอย่างไร จะเป็นแสง เป็นสี เป็นเสียง หรือจะเป็นข้อมูลในลักษณะของตัวหนังสือ ข้อมูลในลักษณะของวัตถุ ก็คงจะต้องคุยกันอีกหลายรอบ
เมื่อทุกอย่างลงตัวก็จะเริ่มดำเนินการ โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ ๑๘ มีนาคมที่ผ่านมา ศาลา ๑๐๐ ปีวัดท่าขนุนปิดทันทีที่เลิกใช้งาน เพราะว่าตอนนี้ข้าวของที่อยู่ข้างในมูลค่าเกือบ ๒๐๐ ล้านบาทแล้ว หลวงพ่อทองคำ หลวงพ่อนาก หลวงพ่อเงิน ราคาขนาดนั้นแล้ว ท่านใดที่เคยไปวัดแล้วพักที่ชั้น ๒ ซึ่งจะสร้างพิพิธภัณฑ์ ตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสพักแล้ว ยอมไปนอนเบียดกับเขาเสียดี ๆ ไม่อย่างนั้นก็โน่นเลย...ไปนอนที่ลานธรรม
ข้อสำคัญอยู่ตรงที่ว่าตอนที่ช่างทำงาน เราต้องมีพระนั่งประจำอยู่ที่มณฑปหลวงพ่อสามกษัตริย์ เพราะว่าผู้คนเข้า ๆ ออก ๆ มากหน้าหลายตา ถ้าไม่ดูแลใกล้ชิด แค่เขาหยิบเอาเกศหลวงพ่อทองคำไปก็พอแล้ว น้ำหนักหลายกิโลกรัม เพราะว่าปลายยอดมงกุฎตันทั้งแท่ง แล้วทองคำตัน ๆ ขนาดเกือบเท่าแขนของเรา น้ำหนักกี่กิโลกรัมก็เดาเอาเองก็แล้วกัน เพียงแต่ว่าถ้าใครกล้าหาญถึงขนาดปีนขึ้นไปหยิบก็คงจะรอดยาก เพราะว่าให้ช่างเขาดำเนินการติดตั้งระบบเลเซอร์พร้อมกับเสียงเป็นระบบกันขโมย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2019 เมื่อ 02:09
|