ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 21-10-2022, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,447
ได้ให้อนุโมทนา: 151,085
ได้รับอนุโมทนา 4,399,774 ครั้ง ใน 34,036 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพลงมารอคณะตั้งแต่ตี ๕ เพื่อที่จะเดินทางไปขึ้นบอลลูนกัน แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงตี ๕ ครึ่งตามนัดแล้ว ยังไม่เห็นรถยนต์ที่ทาง "มัคคุเทศก์นุ" บอกว่าจะมารับ ด้วยความที่สังหรณ์ใจ จึงเดินออกมาข้างนอกโรงแรม แล้วก็เห็นว่ารถยนต์นั้นมารออยู่ก่อนแล้ว แต่ว่าเป็นรถสองแถว พลขับจึงไม่กล้าเข้าไปในโรงแรมอมารีวังเวียงที่ค่อนข้างจะหรูหรามาก

เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราจึงต้องออกมาขึ้นรถยนต์ แล้วตรงไปยังสนามปล่อยบอลลูน อากาศค่อนข้างจะเย็น อยู่ที่ ๑๙ องศาเซลเซียส มีบอลลูนอยู่ ๓ ลูก คือขนาดใหญ่ สามารถขึ้นได้ได้ ๑๔ ถึง ๑๖ คน ขนาดกลางสามารถขึ้นได้ ๑๒ คน และขนาดเล็กสามารถขึ้นได้ ๖ คน

เมื่อพวกเราพร้อมแล้วก็ขึ้นบอลลูนขนาดกลางพร้อมกับบุคคลจากคณะอื่นด้วย เนื่องเพราะว่าคณะของเรานั้นมีผู้กล้าหาญอยู่แค่ ๗ คนเท่านั้น บอลลูนลมร้อนนั้นสามารถลอยขึ้นไปได้มั่นคงมาก ๆ โดยเฉพาะกับบุคคลที่ไม่มีอาการเมารถเมาเรือใด ๆ อย่างกระผม/อาตมภาพแล้ว ก็เหมือนอย่างกับยืนอยู่บนพื้นดินนั่นเอง เขาบังคับให้บอลลูนลอยสูงลอยต่ำ เพื่อที่พวกเราจะได้ชมทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองวังเวียงได้อย่างทั่วถึง

ตอนแรก
อากาศด้านบนก็รู้สึกว่าจะเย็นมาก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่บังคับบอลลูนปล่อยแก๊ส เพื่อที่จะทำลมร้อนพยุงบอลลูนให้สูงขึ้น ก็เล่นเอาบางคนถึงขนาดเหงื่อตก โดยที่มีบอลลูนอีก ๒ ลูกของเจ้าเดียวกันลอยตามกันขึ้นมา ซึ่งเป็นขนาดใหญ่และขนาดเล็ก พวกเราวนเวียนถ่ายรูปกันจนครบ ๓๐ นาทีก็ลงจอด โดยที่รถสองแถวมารับกลับไปยังโรงแรมอมารีวังเวียง

รับประทานอาหารเช้ากันแล้ว ก็ขึ้นไปเข้าห้องน้ำห้องท่า เสร็จเรียบร้อยค่อยลงมาคืนห้อง แล้วทางด้านมัคคุเทศก์คือ "ท้าวนุ" มารับพวกเราตอน ๘ โมงเศษ พาวิ่งตรงไปในสถานที่ซึ่งนึกไม่ถึง ก็คือมุดทางแคบ ๆ แล้วก็ลาดลงต่ำไปทุกที ตอนแรกก็สงสัยว่ามาทำอะไร ? ปรากฏว่ามาจอดอยู่ริมลำน้ำซอง ซึ่งเป็นแม่น้ำประจำเมืองวังเวียง ตรงจุดนี้มีเรือหางยาวจอดอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นโปรแกรมที่ทางเอ็นซีทัวร์แถมให้ เนื่องจากว่าเรามีเวลาเหลือในช่วงเช้าเยอะมาก

พวกเราทุกคนจึงได้นั่งเรือหางยาวลำละ ๒ คน ท่องลำน้ำซองชมทิวทัศน์ภูเขา ป่าไม้และสายน้ำ ไปเป็นระยะทางประมาณ ๓ กิโลเมตรแล้วย้อนกลับมา โดยที่กระผม/อาตมภาพนั้นคอยส่งสัญญาณบอกทางให้ผู้ขับขี่เรือหางยาว เลี่ยงจากสถานที่น้ำตื้นไปยังร่องน้ำลึก ได้ยินว่ามีเรือบางลำที่ดูร่องน้ำไม่เป็น ทำให้ถึงขนาดเกยหินใต้น้ำขึ้นไป ท้องเรือขูดเสียงดังจนกระทั่งอกสั่นขวัญแขวน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-10-2022 เมื่อ 04:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา