ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 18-10-2022, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,369 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อถึงเวลา ๑๕.๐๕ น. ตามหน้าเวลาตั๋ว ถ้าหากว่าเป็นภาษาลาวก็คือ "ปี้" เมื่อเดินทางผ่านด้านประตูหน้าจะเห็นว่ามีป้ายเขียนว่า "บ่อนขายปี้" ก็คือที่จำหน่ายตั๋วของบ้านเรานั่นเอง แล้วก็มี "บ่อนกวดปี้" ก็คือด่านตรวจตั๋ว ซึ่งคำว่า กวดหรือตรวจนี้ ในสมัยโบราณไทยเราก็ใช้คำนี้เช่นกัน

ปรากฏว่ารถไฟความเร็วสูงของเมืองลาวนั้นวิ่งด้วยความเร็วประมาณ ๑๕๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่กระผม/อาตมภาพไม่ได้รู้สึกว่าเร็วเลย เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเคยนั่งทั้งรถไฟความเร็วสูง ๓๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงในประเทศจีน ๓๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงในประเทศญี่ปุ่น และรถไฟ TGV ความเร็วสูง ๒๕๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงในฝรั่งเศส
มาแล้ว จึงรู้สึกว่ารถไฟความเร็วสูงที่นี่วิ่งได้ค่อนข้างจะช้ามาก..!

รถไฟใช้เวลาค่อนข้างจะนานกว่าที่จะวิ่งบุกป่าฝ่าดง มุดอุโมงค์บ้าง ผ่าภูเขาบ้าง มาจนถึงวังเวียง ซึ่งเป็นสถานีแรกที่จอดลง กระผม/อาตมภาพรู้สึกสะท้อนใจว่า สมัยก่อนเขาสูงป่าทึบ พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีเพื่อที่จะเดินทางไปให้ถึง แล้วยังอุตสาหะยกกองทัพไปเพื่อรบกันอีก แม้ "เจ้าลุง" จะบอกว่าเป็น "ค่านิยม" ของคนยุคนั้น กระผม/อาตมภาพก็ยัง "เหนื่อยแทน" อยู่ดี..!

รถไฟจอดที่สถานีวังเวียงเพียงไม่กี่นาที มีเสียงเตือนทั้งภาษาลาว ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ ให้ระมัดระวังเวลาลง ระวังจะหกล้ม และท่านที่จะไปสถานีต่อไป อย่าเผลอลงที่นี่ก่อนถึงหลวงพระบาง..! หลังจากนั้นจึงได้วิ่งต่อมาอีกนาน จนกระทั่งถึงสถานีหลวงพระบาง พวกเราลงจากรถแล้วหามัคคุเทศก์ไม่เจอ รอจนคนส่วนมากออกจากสถานีรถไฟที่หน้าตา "จีนมาก" แล้ว พวกเราจึงถ่ายรูปกับรถไฟจนเจ้าหน้าที่ต้องมา "เซิน" ออก เพราะว่าผู้โดยสารที่นี่จะขึ้นรถ..!

ออกจากสถานีรถไฟความเร็วสูงหลวงพระบางมาก็เจอ "ท้าวนุ" ที่บอกว่าระบบ "ขายปี้" รถไฟความเร็วสูงเป็นแบบสุ่ม ไม่สามารถกำหนดว่าจะนั่งที่ตรงไหน เมื่อมาถึงแล้วจึงลงจากรถมารอข้างนอกเลย เพราะว่ามีทางออกแค่ประตูเดียว ทางบริษัทเอ็นซีทัวร์ติดต่อให้รถตู้มารับพวกเรา ๒ คัน พาวิ่งผ่านถนนลาดยางที่คล้ายกับทางไปจังหวัดกาญจนบุรี คือมีป่าสองข้างทางไปยังที่พักคืนนี้

ฟ้ามืดลงไปทุกที แค่ห้าโมงเย็นก็เริ่มมัวตาไปหมด เพราะว่าประเทศลาวอยู่ทางทิศตะวันออกมากกว่าประเทศไทย พระอาทิตย์จึงลับฟ้าเร็วกว่า จนกระทั่งมาถึงที่โรงแรมแกรนด์หลวงพระบาง ซึ่งเป็นวังเก่าของท่านเจ้าเพชรราช รัตนวงศา เพื่อที่จะเช็คอิน ซึ่ง "เจ้าลุง" พาคณะมารอรับเพื่อ "ดูแล" คณะของเราตลอดทริปนี้

"เจ้าลุง" นั้นแม้ว่าคนลาวจะรักและศรัทธามากกว่า "เจ้ามหาชีวิต" เสียอีก แต่ก็ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนไทย แต่ไปรู้จัก "เจ้าสุภานุวงศ์" น้องชายของท่านที่มีบทบาททางการเมืองมากกว่า กระผม/อาตมภาพได้กุญแจห้องแล้ว ก็เดินตาม "เจ้าลุง" และเจ้าหน้าที่โรงแรมไปยังห้องพักหมายเลข ๒๒๑ สรงน้ำแล้ว รีบมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน แต่เจ้ากรรม..ที่น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) โทรมาถามว่าจะไป "ตลาดมืด" หรือไม่ ? ทำเอาการบันทึกเสียงต้องล่มไปกลางคัน จึงส่งไปให้ "ไอ้ตัวเล็ก" ตัดต่อจนพอที่จะฟังได้ แต่ก็ไม่ครบถ้วนตามที่ตั้งใจบอกกล่าวกับทุกท่าน

พวกเราเดินทางไปยัง "ตลาดมืด" ซึ่งก็คือ "ตลาดที่เปิดขายของเฉพาะช่วงกลางคืน" ที่มีสารพัดร้านค้ายาวเหยียดเป็นร้อย ๆ ร้าน ส่วนมากก็เป็นพวกผ้าทอมือบ้าง ทอเครื่องบ้าง เครื่องจักสาน ภาพวาด เครื่องเงิน ของเก่าที่ "ไม่ดี" แทบทั้งสิ้นที่ "ดี" ก็ราคาแพงมาก..!

ใช้เวลาไปเป็นชั่วโมง นอกจากบรรดาสาว ๆ ที่หาซื้อผ้าถุงไปเพื่อใส่ตอนใส่บาตรพระพรุ่งนี้แล้ว กระผม/อาตมภาพก็กลับที่พักแบบมือเปล่า ไม่ได้อะไรติดมาเลยนอกจากประสบการณ์เท่านั้น..!

กลับอุทิศส่วนกุศลแก่ "เจ้าลุง" และบริวารทั้งหลาย ขอความสะดวกคล่องตัวทุกอย่างในการมา "เยี่ยม" ประเทศลาวครั้งนี้ แล้วฉันยาเพื่อป้องกันไข้กำเริบ ปรับเครื่องปรับอากาศไปที่ ๒๘ องศาเซลเซียส จากนั้นมุดขึ้นเตียงภาวนาจนหลับไป

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

*** หมายเหตุ : เนื่องจากการบันทึกเสียงล่ม จึงมีการ "เขียน" เพิ่มเติมเนื้อหาขึ้นมาจนครบตามที่ตั้งใจเล่าให้ทุกคนฟัง ***
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-10-2022 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา