ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 13-08-2022, 21:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,447
ได้ให้อนุโมทนา: 151,085
ได้รับอนุโมทนา 4,399,762 ครั้ง ใน 34,036 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้ก็มาตรงกับที่กระผม/อาตมภาพเองเป็นอยู่เหมือนกัน ก็คือถึงแม้ว่าจะปฏิบัติธรรมแบบไม่ได้เจตนา เพราะว่าโดนพ่อบังคับสวดมนต์ทุกวัน แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ เมื่อเราสวดมนต์ สร้างสมาธิ ก็ทำให้เรียนเก่ง เพียงแต่ว่าของกระผม/อาตมภาพมีมากกว่าท่านนายอำเภออยู่หน่อยหนึ่ง ก็คือตั้งแต่ชั้น ป.๑ ยันปริญญาเอก ยังไม่มีใครแย่งที่ ๑ ไปได้เหมือนกัน..!

พอมาท่าน สจ.ชัยวัฒน์ ท่านมีเวลาแค่ ๕ นาที เนื่องจากว่าพระจะต้องฉันเพล ท่านบอกว่าท่านเคยบวชมาก่อน แล้วก็ศึกษาเล่าเรียนนักธรรมบาลี โดยเฉพาะในส่วนของคิหิปฏิบัติ ก็คือหลักธรรมสำหรับคฤหัสถ์ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ท่านก็เน้นในส่วนสำคัญ ก็คือทิศทั้ง ๖ โดยเฉพาะในส่วนของสามีภรรยาจะต้องปฏิบัติต่อกัน โดยที่ท่านเน้นย้ำว่า พระใหม่ ถ้าสึกหาลาเพศไป ไม่ต้องถึงขนาดกล่าวธรรมให้คนอื่นฟังได้ เอาแค่ว่าสามารถเป็นศาสนพิธีกร อาราธนาศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปริตรได้ก็เป็นที่พอใจมากแล้ว

พอไปเจอข้าราชการฝ่ายปกครองกับตัวแทนประชาชน ที่ศึกษาธรรมและนำไปใช้งานจริงในชีวิตได้ กระผม/อาตมภาพที่เคยไปบรรยายหลายแห่งว่าองค์กรพุทธบริษัท ๔ ของเราค่อนข้างจะพิกลพิการ

องค์กรภิกษุก็ไม่สามารถที่จะคัดคุณภาพได้ ถ้าหากว่าเป็นวัตถุดิบที่เข้าสู่กระบวนการผลิต ก็มักจะเป็นวัตถุดิบเกรด C เกรด D ไปโน่น หาวัตถุดิบเกรด A ได้ยากมาก

ส่วนของภิกษุณีก็ไม่เป็นที่ยอมรับ เนื่องจากว่าภิกษุณีของเถรวาทถือว่าขาดช่วงไปแล้ว ถ้าเป็นรถยนต์ องค์กรพุทธบริษัท ๔ ก็เหลือแค่ ๓ ล้อ..!

ปรากฏว่าอีก ๒ ล้อ ก็คืออุบาสกกับอุบาสิกาก็ไม่ได้ทำหน้าที่ของตนเอง ก็คือปฏิบัติธรรมให้เกิดผลแล้วนำไปเผยแผ่ต่อ หรือว่าทำให้คนอื่นเห็นเป็นตัวอย่าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2022 เมื่อ 01:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา