ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 12-08-2022, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,494 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทำอย่างไรที่เราจะหยุดคิดให้ได้ ? ก็แปลว่า อันดับแรก สติ ความรู้ตัวจะต้องเกิดขึ้น เมื่อรู้ตัวว่าเราฟุ้งซ่านแล้วทำอย่างไร ? ก็ต้องหยุด เราจะหยุดความฟุ้งซ่านนั้นได้ ต้องอาศัยกำลังของสมาธิ ก็แปลว่า ถ้ากำลังสมาธิของเราพอ เราจะสามารถหยุดการปรุงแต่งได้ชั่วคราว ทำให้เราปลอดจาก รัก โลภ โกรธ หลง ได้ชั่วคราว เผลอปรุงเมื่อไรก็เดือดร้อนอีก

การที่เราจะหยุด อันดับแรกเลย ต้องเห็นโทษว่าคิดแล้วเราเดือดร้อนอย่างไร ถ้ายังไม่เห็นโทษ ก็ยังเบื่อ ๆ อยาก ๆ ดีชั่วรู้หมดแต่อดไม่ได้ แต่ถ้าเห็นโทษว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับเราในทุกด้าน เกิดแล้วเกิดอีกนับชาติไม่ถ้วน ก็ยังทุกข์ยากลำบากอยู่ ที่บาลีใช้คำว่า ปุนัปปุนัง คือซ้ำ ๆ ซาก ๆ เห็นโทษแล้วต้องเข็ดด้วย ถ้าไม่เข็ดก็ยังไปทำอีก เมื่อเห็นโทษแล้ว เข็ดแล้ว สภาพจิตก็จะเลิกสนใจเรื่องอื่น หันมาหยุดอยู่กับปัจจุบัน

เราจะสังเกตว่าการที่เราฟุ้งซ่าน ถ้าไม่ไปหวนหาอาลัยในอดีต ก็จะไปฟุ้งถึงอนาคต อดีตเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ ไม่น่าจะเป็นอย่างนี้ ไม่น่าจะเป็นอย่างนี้ ควรจะเป็นอย่างนั้น ควรจะเป็นอย่างนี้ อนาคตอยากมี อยากได้ อยากเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หลุดจากปัจจุบันเมื่อไรก็เดือดร้อนเมื่อนั้น แล้วจะอยู่กับปัจจุบันได้อย่างไร ก็อยู่ที่ลมหายใจเข้าออกตรงนี้

ตราบใดที่ความคิดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา สภาพจิตก็ปรุงแต่งไม่ได้ เพราะว่างานตรงหน้าก็คือตามลมเข้าไป ตามลมออกมา อยู่กับปัจจุบันตรงนี้ อดีตก็ไม่ไป อนาคตก็ไม่ไป หยุดได้เมื่อไร รัก โลภ โกรธ หลง ทุกอย่างหยุดหมด ดับหมด ต่อให้ดับเพียงชั่วคราวก็ยังดี บุคคลที่โดนไฟเผาอยู่ตลอดเวลา อยากจะให้ไฟดับ สักวินาที ๒ วินาทีก็ยังเอา แล้วเราที่โดนไฟกิเลสเผามานับชาติไม่ถ้วน แล้วจะไม่พยายามลองหยุดดูบ้างหรือ ?

ถ้าหากว่าเราหยุดอยู่กับปัจจุบันได้ สภาพจิตจะผ่องใสมาก เหมือนอย่างกับน้ำที่ตกตะกอน ความใสเริ่มปรากฏ ไม่มีกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง มากวนให้ขุ่น สภาพจิตยิ่งผ่องใสเท่าไร สติก็ยิ่งแหลมคมว่องไวเท่านั้น ปัญญาก็จะเกิด ให้เราเห็นว่าทำอย่างไรเราถึงจะรักษาความสุขที่เกิดจากการที่ รัก โลภ โกรธ หลง ดับลงชั่วคราวนี้เอาไว้ได้ ก็แปลว่าการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกตรงหน้าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้อีกแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-08-2022 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา