ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 11-08-2022, 23:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,214 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทำอย่างไรที่เราจะแยกแยะให้ออกว่า รัก โลภ โกรธ หลง เป็นคุณสมบัติของร่างกายนี้ แต่อยากจะมีก็มีไป เราไม่ไปยุ่งเกี่ยวด้วย การที่เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย เราต้องหยุดการนึกคิดปรุงแต่งให้เป็น

เพราะว่ารูปคือร่างกายนี้

เวทนาคือความรู้สึกสุข ทุกข์หรือว่ากลาง ๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์

สัญญา คือความรู้ได้หมายจำทั้งปวง

สังขาร บางคนไปเข้าใจว่าเป็นร่างกาย แต่ไม่ใช่ ร่างกายคือรูป สังขารคือความนึกคิดปรุงแต่ง บาลีหลายแห่งใช้คำว่าจิตสังขาร คือการปรุงแต่งของใจ

วิญญาณคือประสาทรับความรู้สึก

เราจะเห็นว่าขันธ์ ๕ คือสิ่งทั้ง ๕ นี้ เมื่อรวมเข้ามาเป็นตัวตนแล้ว เรามาอาศัยอยู่ตามเวรตามกรรมที่ได้สร้างไว้ แล้วเราก็ไปยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวกูของกู แล้วก็ยังไม่พอ ยังยึดมั่นไปทั่ว โน่นก็พ่อกู นี่ก็แม่กู นั่นก็เมียกู นี่ก็ลูกกู ยิ่งยึดเกาะก็ยิ่งมาก ยิ่งมากก็ยิ่งถ่วงเราจมอยู่กับวัฏสงสาร ไปไหนไม่ได้ แล้วทำอย่างไรเราถึงจะหลุดพ้นได้ ? ก็ต้องหยุดการนึกคิดปรุงแต่งให้ได้

ถ้าหากว่าเห็นอย่างโทรศัพท์เครื่องนี้ เราเห็นว่าเป็นโทรศัพท์ก็แย่แล้ว เพราะว่าสภาพจิตเริ่มปรุงแต่งไปแล้ว วันก่อนเจอสาวสวยถูกใจ ขอเบอร์เขาเอาไว้ เดี๋ยวโทรไปหาหน่อย นี่..ราคะมาแล้ว เห็นประกาศโปรโมชั่นพิเศษ ๘.๘ น่าสนใจ เดี๋ยวสั่งซื้อสักหน่อย นี่..โลภะมาแล้ว โลภอีกแล้ว วันก่อนไอ้นั่นทำไม่ถูกใจเรา เดี๋ยวโทรไปด่า เดี๋ยวส่งไลน์ไปด่ามันหน่อย นี่..โทสะมาอีกแล้ว เห็นหรือยังว่า ถ้าเราสักแต่เห็นว่าเป็นรูปเป็นธาตุ กิเลสก็ทำอะไรเราไม่ได้ แต่ถ้าเราคิดเมื่อไร รัก โลภ โกรธ หลง จะเจริญงอกงามทันที..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-08-2022 เมื่อ 09:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา