ดูแบบคำตอบเดียว
  #18  
เก่า 19-04-2012, 13:55
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,554 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

สภาพความเป็นอยู่สมัยนั้น

สมัยก่อน ณ บ้านตาดนี้เป็นป่าดงดิบ มีทั้งต้นยาง ตะเคียนทอง ประดู่ และต้นไม้อื่น ๆ หลากหลายพันธุ์มากทั้งปริมาณและขนาด สัตว์ป่าจึงมีชุกชุม ไม่ว่าจะเป็นหมูป่า เสือ ช้าง กวาง เป็นต้น องค์หลวงตาเคยบรรยายสภาพความเป็นอยู่ในสมัยนั้นว่า

“... โอ๋ย.. เป็นดงใหญ่ที่สุดเลยนะ ตั้งแต่กรมทหาร (ค่ายประจักษ์ศิลปาคม) มาเลยละ ตั้งแต่เราเป็นเด็กยังเห็นกรมทหารนี้เป็นดงทั้งนั้นนะ เขามาตั้งใหม่นะนี่ หลวงตาเกิดแล้ว เขาถึงมาตั้งใหม่ แต่ก่อนกรมทหารอยู่ทางบ้านหนองสำโรง* เขาเพิ่งย้ายมาทีหลัง แต่ก่อนเป็นดงทั้งหมด... มีแต่ดงช้าง ดงเสือเต็มหมด...

แม้หลวงตามาบวชแล้ว บ้านจั่น** ก็ยังเป็นดงอยู่นะ มาใหม่ ๆ บ้านคำกลิ้งอยู่กลางดงเลย ช้างลงกินน้ำตอนกลางคืนเต็มไปหมด เพราะฉะนั้น การทำมาหากินจึงสะดวก... หารอบบ้านเอาก็พอแล้ว สมัยนั้นการซื้อการขายมันก็ไม่มี

ตอนหลวงตาเป็นเด็ก เราจำได้.. ใครได้หมู ได้กวางมาตัวหนึ่ง เขาก็กินกันทั้งหมู่บ้าน แจกกันทั้งบ้านเลยนะ ไม่มีการซื้อการขาย ส่งบ้านนั้นบ้านนี้... เขาหากินกันตามท้องไร่ท้องนา พวกอีเห็น กระจ้อน กระแต มันเต็มแถวนี้หมด พวกปูปลาอะไร ไม่อดไม่อยาก

ตั้งแต่เรายังไม่บวชนี่ เสือโคร่งนี้แอบเข้าไปกัดวัว โอ๋ย.. ข้างต้นเสาเรือนเลยนะ ติดกับบ้านเลยนะ เพราะดงติดกับบ้าน สัตว์เลี้ยงตามบ้านเขาก็ไม่ได้ผูกไว้ ดังนั้น เสือมันพอกินได้ มันก็กินทันที เพราะมันกินได้ง่ายกว่าสัตว์ป่า สัตว์ตามบ้านมันไม่ค่อยระวังตัว

ช้างมันก็เข้าไปกินในสวนเขา สวนก็ติดกับบ้านนั่นนะ มันกินพวกกล้วยพวกอะไร ตอนกลางคืนดังโป๊ก ๆ เป๊ก ๆ เขาก็ไม่ว่าอะไรนะ... เฉยมาก ขนาดนั้นนะ ทางล้อทางเกวียนอะไรก็ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กัน ทำนาก็ทำพอกินเท่านั้น เพราะว่าไม่ได้ซื้อได้ขาย พอเสร็จสรรพการทำนาแล้ว เขาก็สนุกสนานกัน เพราะไม่ได้ทำงานอะไร

การซื้อการขาย การรับจ้างอะไรไม่มี แต่ก่อนไม่มี แล้วใครจะมีเงิน ครัวเรือนหนึ่งมี ๙ บาท ๑๐ บาท ถือว่าเป็นธรรมดาแล้วนะ ถือว่ามีฐานะพอสมควร ถ้ามีเป็นร้อยเป็นชั่งเขาถือว่ามีมากจริง ๆ เป็นคนมั่งมีในบ้านนั้น...”

ครอบครัวของท่านทำนาเป็นอาชีพหลัก และเพราะเหตุที่อยู่กลางป่าดงเช่นนี้ จึงย่อมหนีไม่พ้นที่จะเจอะเจอสัตว์เหล่านั้น ฉะนั้น ยามว่างจากนา พ่อของท่านซึ่งเป็นนายพรานที่มีชื่อเสียง จึงเข้าป่าล่าสัตว์อยู่เป็นประจำ เป็นธรรมดานายพรานย่อมชำนาญในการแกะรอยสัตว์ พ่อของท่านนอกจากจะชำนาญในทางแกะรอยสัตว์ ยังขึ้นชื่อลือชาในการแกะรอยคนด้วย นิสัยช่างสังเกตช่างพินิจพิจารณา จึงน่าจะถูกถ่ายทอดมาถึง “เด็กชายบัว”

หากสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งหล่อหลอมให้บุคคลอุปมีนิสัยหนักไปทางใดทางหนึ่งจริง การอยู่ท่ามกลางป่าเสือ ดงช้าง และสัตว์ร้ายนานาชนิด ที่เป็นภัยอันตรายรอบด้าน ย่อมสร้างให้คนอยู่ด้วยความไม่ประมาท มีจิตใจเด็ดเดี่ยวอาจหาญและอดทนเป็นเลิศ “เด็กชายบัว” ก็น่าจะรับผลนี้อย่างเต็มภาคภูมิ

================================
* บ้านหนองสำโรงอยู่ห่างจากบ้านตาดประมาณ ๒๐ กิโลเมตร ไปทางทิศเหนือ
** บ้านจั่นอยู่ห่างจากบ้านตาดประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ไปทางทิศเหนือ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2012 เมื่อ 17:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 99 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา