โอ้โห..อ่านถึงตรงนี้สว่างไปสามโลกเลย..! นี่แหละ..ใช่เลย เห็นเขาเหมือนกับเป็นคนในครอบครัวเดียวกับเรา ก็เลยไม่เกิดกามราคะขึ้น แล้วก็เลยทำให้เข้าใจว่า ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านยืนยันนักหนาว่า กรรมฐานทุกกองถ้าทำเป็น เข้าถึงอรหัตผลได้ทั้งหมด
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ? ก็เพราะว่ากรรมฐานทุกกองต้องสามารถ ตัดราคะ ตัดโลภะ ตัดโทสะ ตัดโมหะ ได้ เพียงแต่ว่าจะตัดมุมไหน ? เขาบอกว่ากรรมฐานคู่ศึกของกามราคะก็คืออสุภกรรมฐาน และกายคตานุสติกรรมฐาน แล้วทำไมเราเอามาใช้แล้วถึงสู้ไม่ได้สักมุม ? แต่พอมาเจอประวัติพระรัฐบาลเถระ คราวนี้สบาย..ลอยลำ มาเท่าไรกูสู้ได้หมด..! นั่นคือเมตตาพรหมวิหาร รักเขาเหมือนคนในครอบครัวตัวเอง ถ้าหากว่าพรหมวิหารสี่ตัดราคะไม่ได้ ก็เป็นพระอรหันต์ไม่ได้..นี่ตัดได้ ขอยืนยัน..เพราะว่าทำมาด้วยตัวเองแล้ว
ถึงได้บอกกับโยมว่า บางทีกิเลสไม่มาในมุมที่เราคิดไว้ นักสู้กิเลสจะประมาทไม่ได้ ประมาทเมื่อไรตายฟรีเมื่อนั้น แล้วอาตมาไม่อายหรอก ที่จะเล่าเรื่องชั่ว ๆ ของตัวเองให้โยมฟัง เพราะว่าเจอกับตัวเองมาทุกรูปแบบ เราเป็นอย่างนี้เราก็พร้อมที่จะบอกว่าเราเป็นอย่างนี้ เราแก้ไขได้ด้วยวิธีนี้ เราก็ต้องบอกว่าเราแก้ไขได้ด้วยวิธีนี้ ประโยชน์ถึงจะเกิดกับโยมได้ ถ้ามัวแต่อายอยู่ กลัวคนอื่นจะบอกว่าครูบาอาจารย์ของเราราคะจัดมาก เดี๋ยวเขาตำหนิเอา ไม่ต้องไปสนใจใคร เราเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด
หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง ท่านเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ท่านเดินจงกรมต่อสู้กับกามราคะในป่าช้า ปรากฏว่าเวลาเกิดอารมณ์เพศขึ้นมา อวัยวะเพศเสียดสีผ้าสบงก็แข็งตัว ท่านต้องเดินเกือบจะแก้ผ้าก็คือตลบผ้าสบงขึ้นมาผูกไว้ข้างบน เดินจงกรมเป็นวันเป็นคืนกว่าที่จะยอมสงบ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้ามึงไม่เลิก กูก็เดินให้ตายไปเลย..!
บรรดพาลูกศิษย์หน้าบาง พอจะเขียนประวัติหลวงพ่อชาก็ขอว่า "ตัดตรงนี้ออกได้ไหม ?" หลวงพ่อชาบอกว่า "ถ้าตัดออกก็ไม่ต้องเขียนประวัติข้า" ก็ท่านสู้มาแบบนี้แล้วท่านชนะ ต้องไปอายตรงไหน..!?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2023 เมื่อ 03:00
|