วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตรงกับวันจักรีบรมมหาราชวงศ์ ซึ่งโดยปกติถ้าหากว่าอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็จะเป็นวันที่ปราสาทพระเทพบิดรเปิดให้ประชาชนเข้าไปถวายสักการะพระบรมรูปในหลวงทั้ง ๙ รัชกาลของกรุงรัตนโกสินทร์
คราวนี้ทางด้านวัดเรา ด้วยความที่มีการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน เมื่อโพสต์ภาพลงทางเพจเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ ก็ได้รับเสียงตอบรับมาว่า สามเณรภาคฤดูร้อนวัดท่าขนุนเรียบร้อยเกินเหตุ เพราะว่าที่อื่นเขานั่งนิ่ง ๆ กันไม่ได้ ก็เลยบอกว่า "ถ้าหากว่ามีไม้เรียว เณรที่ไหนก็นั่งนิ่งได้..!"
บางคนก็บอกว่า "ค่ายทหารชัด ๆ..!" ก็น่าจะใช่ เพราะว่าพระภิกษุสามเณรคือทหารในกองทัพธรรม เราจะไปให้อภัยว่าสามเณรเป็นเด็กไม่ได้ เพราะว่าสามเณรคือเหล่ากอ หรือว่าเชื้อสายของสมณะ เป็นบุคคลที่ชาวบ้านเขาเคารพบูชากัน ก็แปลว่าระเบียบมีอย่างไร ศีลมีอย่างไรก็ต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ ตรงนี้บรรดาพี่เลี้ยงหรือว่าพระอาจารย์ทั้งหลาย ก็คงต้องเหนื่อยยากกันอีกหลายวันกว่าที่จะจบโครงการ
อีกส่วนหนึ่งก็คือ มี "ผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย" ส่งยามาให้ประมาณ ๗ - ๘ ตัน..! จะส่งมาทำไมในเมื่อทางวัดไม่ได้เรียกร้อง ? ตอนนี้กุฏิเจ้าอาวาสมีแต่กลิ่นยาสมุนไพรเหม็นหึ่งไปหมด เพราะว่าเอาไปไว้ที่กุฏิอื่นเขาก็ไม่ยอม คืออยากจะทำบุญก็ต้องใช้ปัญญาด้วย ไม่ใช่เห็นว่าอะไรดีก็ส่งไปเรื่อยเปื่อย
แล้วทางวัดก็มีธรรมเนียมอยู่ ก็คือไม่เคยตอบจดหมายใคร และไม่ออกอนุโมทนาบัตรให้ใคร เพราะไม่ได้เรียกร้องให้ถวายมา เพราะฉะนั้น...ไม่จำเป็นที่จะต้องเขียนหนังสือกำกับมาว่า ขอใบอนุโมทนาบัตรในนามของคนโน้น ในนามของคนนี้ เพราะว่าบางทีแม้แต่เปิด กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้เปิด ให้เขาโยนเข้าคลังส่วนกลางไปเลย..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2022 เมื่อ 02:38
|