เรื่องนี้กระผม/อาตมภาพจึงขอสรุปลงตรงที่ว่า ถ้าหากว่าเป็นนักปฏิบัติธรรมที่เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าแล้ว สิ่งที่เข้าถึงนั้น เป็นสิ่งที่สลักฝังลึกอยู่ในจิตในใจของท่านทั้งหลายเหล่านั้น จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ไม่มีวันคลอนคลาย แต่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เป็นของไม่เที่ยงนั้น ย่อมเสื่อมทรามไปตามปกติ
เพียงแต่ว่าบุคคลที่เป็นนักปฏิบัติชั้นยอดนั้น ส่วนใหญ่แล้วมีสติที่สมบูรณ์ ความเสื่อมทรามเหล่านี้จึงปรากฏขึ้นช้ามาก จนกระทั่งหลายท่านก็ไม่ปรากฏให้เห็นชัดเจน ว่ามีความเสื่อมทรามทั้งหลายเหล่านี้อยู่
จึงเป็นเรื่องที่พวกเราทั้งหลายจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาให้รู้ชัดเจน อย่างที่หลวงปู่สด วัดปากน้ำ กล่าวว่า "การเรียนในพระพุทธศาสนาจะต้องเรียนให้รู้จริง เมื่อถึงเวลา จะได้เป็นทนายแก้ต่างให้กับพระพุทธศาสนาได้" ไม่ใช่ปล่อยให้คนรู้ไม่จริง หรือว่ารู้ต่อกันมาผิด ๆ นำสิ่งทั้งหลายที่ตนเองรู้ผิดนั้นเผยแพร่ไปเรื่อย แล้วทำให้พระพุทธศาสนาของเรา โดน "ด้อยค่า" ลงไปอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมที่ฟังอยู่แต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2022 เมื่อ 02:45
|