ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 07-11-2021, 00:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,545
ได้ให้อนุโมทนา: 151,581
ได้รับอนุโมทนา 4,407,140 ครั้ง ใน 34,135 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่คราวนี้ที่กระผม/อาตมภาพบอกว่า พวกท่านคิดไม่ค่อยถึงก็คือ ส่วนใหญ่แล้วมักจะลากลับบ้าน ลาไปสถานที่ต่าง ๆ ลักษณะอย่างนี้ ถ้าหากว่าเป็นผม จะบอกว่า "ยื่นหัวไปให้เขาตี" ในวัดของเรากระแสส่วนใหญ่ไหลไปทางเดียวกัน ก็คือตั้งหน้าตั้งตาสะสมบุญกุศล ในศีล ในสมาธิ ในปัญญา แต่ออกไปข้างนอก โดยเฉพาะกลับบ้าน มีแต่กิเลสท่วมหัว..!

หลายท่านที่บวชอยู่นาน ๆ กลับบ้านไปแต่ละที มีบ้างไหมที่ญาติโยมเขาไม่เอาเรื่องเดือดร้อนทางบ้านมาเล่าให้ฟัง ? ส่วนใหญ่ก็สารพัดเรื่อง รับเข้ามาก็ร้อนหู ร้อนตา ร้อนใจ แล้วท้ายสุดก็อยู่ไม่ได้ ตรงจุดนี้พวกเราต้องสังวรให้ดีนะครับ
กระผม/อาตมภาพถึงได้บอกว่า พวกเราแส่หาเรื่อง ยื่นหัวไปให้เขาตีเอง แต่คราวนี้ถ้าหากว่าท่านลาตามสิทธิ์ กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ว่าให้รู้จักระมัดระวัง รักษากำลังใจให้เป็น

ผมบวชมาปีนี้ ปีที่ ๓๖ ระยะเวลา ๓๖ พรรษาเต็ม ขึ้นปีที่ ๓๗ แล้ว ผมกลับบ้านจริง ๆ แค่ครั้งเดียวครับ หลังจากบวชไป ๘ เดือน ก็คือผมบวชวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๒๙ แล้วหลังจากนั้นก็อยู่วัด ซักซ้อมการปฏิบัติ ทำตามระเบียบ ทำตามวินัย พยายามสร้างกำลังใจตนเองให้เข้มแข็งที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะจำคำสอนของหลวงพ่อวัดท่าซุงที่บอกไว้ว่า "ยังมีเวลาอยู่ ต้องเร่งปฏิบัติให้มาก เมื่อถึงเวลางานเข้ามา จะได้มีกำลังสู้งานได้"

ปรากฏว่า ๘ เดือนผ่านไป ลากลับบ้านครั้งแรก
กระผม/อาตมภาพทนอยู่ได้ไม่ถึง ๑๕ นาที รู้สึกชัด ๆ เลยว่า "บ้านไม่ใช่บ้านของเราแล้ว" จนต้องหนีไปนอนที่วัดเทพศิรินทราวาสกับหลวงปู่มหาอำพัน แล้วหลังจากนั้นความคิดที่จะกลับบ้านไม่เคยมีอีกเลย มีสองปีแรกที่ถึงเวลาตรุษจีน ทางแม่และพี่น้องเขานิมนต์ไปรวมญาติ ปรากฏว่าไปปีแรกเขาก็ถวายเงินแต๊ะเอียกันมา คนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง ปีที่สองไปก็ถวายมา ปีที่สามผมเลิกไป เพราะรู้สึกว่าเหมือนกับตั้งใจไปเอาเงิน

ดังนั้น...ไม่ว่าผมจะไปที่ไหนก็ตาม ผมจะพยายามรีบกลับวัดให้เร็วที่สุด เพราะรู้สึกว่าเป็นที่ซึ่งปลอดภัย อย่างน้อย ๆ กระแสกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ก็น้อยกว่าข้างนอก ท่านทั้งหลายถ้าหากว่าสภาพจิตไม่ไวพอ ก็อาจจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ถ้าหากว่าสภาพจิตไวพอ เวลาเรากระทบนี่ จะรู้สึกเหมือนกับโดนไฟเผาครับ ราคัคคินา โทสัคคินา โมหัคคินา ชัดมากเลย ไฟคือราคะ ไฟคือโลภะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ ส่วนใหญ่เป็นคนอื่นเอามาเผาเรา ก็เพราะว่าเราทะลึ่งโง่ออกไปให้เขาเผาเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2021 เมื่อ 02:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา