[เถรี]

ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ ต้องบอกว่าเดือนนี้พวกเราเจริญกรรมฐานกันแค่สองวัน เนื่องจากอาตมาติดภารกิจสำคัญของทางคณะสงฆ์ ไม่ว่าการเป็นประธานสนามสอบธรรมศึกษาก็ดี การเป็นกรรมการในการสอบบาลีก็ตาม

คราวนี้ในส่วนหนึ่งที่ได้บอกกล่าวเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่การปฏิบัติธรรมก็คือ ญาติโยมทุกท่านส่วนใหญ่ถนัดในการให้ทานและรักษาศีล แต่ไม่ถนัดในการเจริญภาวนา ทั้ง ๆ ที่การเจริญภาวนานั้น แทบจะเป็นคำตอบทุกอย่างของการปฏิบัติธรรม เพราะไม่ว่าในเรื่องของการรักษาศีล ถ้าไม่มีการภาวนา สติก็จะไม่แหลมคมว่องไว ทำให้ไม่สามารถที่จะควบคุมกำลังใจของตนให้อยู่ในกรอบของศีลได้อย่างใจนึก

ในการที่จะใช้ปัญญาพินิจพิจารณา เพื่อตัดกิเลส ตัดสังโยชน์ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่มีพื้นฐานของสมาธิที่เพียงพอ ก็ไม่อาจที่จะตัดได้ขาดอีกเช่นกัน สมาธิจึงเป็นห่วงโซ่ข้อกลางที่สำคัญที่สุด ในการประพฤติปฏิบัติธรรมของพวกเรา

และโดยเฉพาะทุกท่านยังมีความประมาทอยู่มาก ไม่ว่าจะประมาทโดยตนเองก็ดี ประมาทโดยคิดว่าครูบาอาจารย์ยังไม่ล่วงลับดับขันธ์ก็ตาม ช่วงที่อาตมาป่วยหนัก มีหลายท่านพอทราบข่าวก็ไปคร่ำครวญกัน พยายามจะอาราธนาให้อยู่นาน ๆ มีบางท่านถึงขนาดออกปากว่า "นิมนต์หลวงพ่ออยู่เป็นร้อยปีนะครับ" อาตมาก็ตอบกลับไปอย่างชัดเจนว่า "มึงอยู่ไปคนเดียวเถอะ..!"