ดูแบบคำตอบเดียว
  #19  
เก่า 05-10-2021, 23:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,632
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,414,013 ครั้ง ใน 34,220 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนนี้เราเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนจริง ๆ เปรียบเหมือนอย่างกับเสื้อผ้าชุดหนึ่ง หรือเปรียบเหมือนรถยนต์คันหนึ่ง เมื่อถึงเวลาเสื้อผ้านั้นเก่าหมดสภาพ เราก็ถอดเปลี่ยนใหม่ เมื่อรถยนต์คันเก่าหมดสภาพ เราก็ต้องหารถยนต์มาเปลี่ยนใหม่ นั่นคือการที่เราเปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติ เวียนว่ายตายเกิดอยู่ไม่รู้จบ เพราะว่าเราไม่รู้เห็นสภาพความเป็นจริง จึงไปยึดถืออัตภาพร่างกายนี้ว่าเป็นเราเป็นของเรา

ตอนนี้เราเห็นจริงอย่างชัดเจนแล้วว่า ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเราจริง ๆ ก็ให้น้อมจิตน้อมใจ ยอมรับความเป็นจริงอันนี้ไว้ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายกระทำจนถึงจุดนี้ แล้วยอมรับได้ว่าสภาพร่างกายนี้ไม่เที่ยงจริง ๆ เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด

ร่างกายนี้ประกอบไปด้วยความทุกข์จริง ๆ จะหลับ จะตื่น จะยืน จะนั่ง เราก็อยู่ในกองทุกข์ตลอดเวลา แล้วร่างกายนี้ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเราจริง ๆ ยึดถือเป็นตัวตนเราเขาไม่ได้ สักแต่ว่าเป็นธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม ประกอบขึ้นมาให้เราอาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้น

ถ้าความรู้สึกของท่านทั้งหลายมาถึงตรงจุดนี้ ก็จะมองเห็นอย่างชัดเจน สามารถที่จะแยกออกได้ว่า อัตภาพร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา แต่เนื่องจากว่าบุญกรรมที่เราทำมา ยังไม่สามารถที่จะทิ้งไปได้ เราก็ดูแลรักษาตามหน้าที่ เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นวัตถุธาตุที่เรายืมโลกนี้มาใช้ชั่วคราว มารยาทในการยืมสิ่งของก็คือ ต้องระมัดระวังดูแลให้ดีที่สุด ถ้าหากว่าเป็นสิ่งของก็คือ ต้องคืนเจ้าของไปในสภาพที่ดีที่สุด

ในเมื่อร่างกายนี้ของเราเกิดอะไรขึ้นมา เราจึงต้องดูแลรักษา เพื่อที่จะให้ทรงสภาพให้เราอาศัยอยู่ได้โดยไม่ทุกข์ยากลำบากมากนัก แต่ขึ้นชื่อว่าการมีร่างกายเช่นนี้ จะไม่มีสำหรับเราอีก ถ้าหากว่าชีวิตนี้ดับสิ้นลงไป เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว

ถ้าท่านทั้งหลายตั้งกำลังใจอย่างนี้เอาไว้ได้ แล้วยังรู้สึกว่ายังต้องการที่จะปฏิบัติภาวนาอยู่ เราก็กำหนดจิตกำหนดใจดูพองยุบของเรา หรือว่าดูลมหายใจเข้าออกของเราไป จนกว่าจะได้เวลาที่เรากำหนดเอาไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-10-2021 เมื่อ 15:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา