ดูแบบคำตอบเดียว
  #16  
เก่า 05-10-2021, 23:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,619
ได้ให้อนุโมทนา: 151,818
ได้รับอนุโมทนา 4,413,379 ครั้ง ใน 34,209 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อายุกาลผ่านวัยมากขึ้นเท่าไร เราก็สามารถทำกิจการงานต่าง ๆ ได้น้อยลง ความทุกข์ที่มีเท่าเดิม จึงกลายเป็นความทุกข์ที่มากขึ้น เพราะว่าทำได้น้อยลง แม้งานจะเท่าเดิมก็กลายเป็นงานที่มากขึ้น จนกระทั่งท้ายสุด ทุกขเวทนาต่าง ๆ บีบคั้น ร่างกายนี้ทนอยู่ไม่ได้ ก็ตาย..ก็พังไป

ตัวเราก็ทุกข์เช่นนี้ คนอื่นก็ทุกข์เช่นนี้ สัตว์อื่นก็ทุกข์เช่นนี้ วัตถุธาตุต่าง ๆ ก็ทุกข์เช่นนั้น วัตถุธาตุสิ่งของแม้ว่าจะไม่มีชีวิตก็ตาม ถึงเวลาก็ต้องทุกข์กับการเสื่อมสลาย การหมดอายุ การเปลี่ยนแปลงไปจากสภาพเดิม ๆ ของตนเช่นกัน

เมื่อมาถึงตรงนี้ก็ให้น้อมจิตน้อมใจ ยอมรับในความเป็นจริงที่เราเห็นชัดนี้ว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นทุกข์นั้น ย่อมเป็นทุกข์จริง ๆ

เมื่อมาถึงตรงจุดนี้แล้ว บางคนสมาธิก็เคลื่อนก็คลายไป ความฟุ้งซ่านเริ่มจะแทรกเข้ามา ถ้าหากว่ามาสายพองยุบก็ให้รีบกลับไปดูพองยุบใหม่ ถ้าหากว่ามาสายวิสุทธิมรรค ก็ให้วิ่งไปหาคำภาวนาและลมหายใจเข้าออกใหม่ จนกระทั่งสมาธิของเราทรงตัวโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องบังคับก็สามารถที่จะกำหนดรู้ได้เอง

จากนั้นเราก็หยิบยกเอาข้อธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นมาพินิจพิจารณาใหม่ ก็คือสรรพสิ่งทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นอนัตตา ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายเป็นตัวเป็นตนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-10-2021 เมื่อ 15:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา