วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพมีภารกิจสำคัญ คือทำหน้าที่รองประธานคณะพระวิปัสสนาจารย์ ตามโครงการอบรมวิปัสสนากรรมฐานแก่เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดทั้ง ๑๒๐ แห่ง ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม หมู่ที่ ๑ ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
ในงานนี้ได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙) กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ มาเป็นประธานเปิดงานให้ ทั้งที่ท่านเจ้าคุณอาจารย์ติดภารกิจในการตรวจข้อสอบบาลีสนามหลวง ซึ่งเปิดการตรวจในวันนี้เป็นวันแรก
ท่านเจ้าคุณอาจารย์เมตตาให้โอวาทเป็นเวลาถึง ๑ ชั่วโมงครึ่ง กล่าวถึงนโยบายซึ่งท่านเจ้าคุณอาจารย์ได้ร่างเอาไว้ เพื่อปรับปรุงแนวทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในส่วนของเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดทั่วประเทศ และได้อนุโมทนากับทางวัดท่าขนุน จังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้ถวายเงินประเดิมกองทุนเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติให้กับท่านไป ท่านถึงได้มีงบประมาณมาแบ่งสันปันส่วนให้กับคณะสงฆ์ทั้ง ๑๘ ภาค ในการจัดอบรมกรรมฐานแก่เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดของทุกภาค
ท่านเจ้าคุณอาจารย์ได้บอกกล่าวถึงแนวทางในการร่างระเบียบของการตั้งสำนักปฏิบัติธรรมใหม่ โดยที่ให้มีแนวทางการเผยแผ่ดังนี้
ข้อที่ ๑ ต้องมีการอบรมบุคลากรในด้านวิปัสสนากรรมฐาน หรือที่เรียกกันว่าพระวิปัสสนาจารย์ ซึ่งในขณะนี้นั้นเป็นที่ต้องการมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีเท่าไรก็ไม่รู้จักพอ แต่ว่าในการอบรมนี้จะต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน คือเป็นไปตามหลักสติปัฏฐาน ๔ ของพระพุทธศาสนา
ดังนั้น..ไม่ว่าท่านจะสอนกรรมฐานในแนวทางใดก็ตาม ถ้าหากว่ามีคนสอบถาม จะต้องอธิบายได้ว่าเข้ากับหลักสติปัฏฐาน ๔ ในพระพุทธศาสนาตรงข้อใด ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ยิ้มอยู่ในใจว่า หัวข้อนี้ของท่านเจ้าคุณอาจารย์เป็นงานที่กระผม/อาตมภาพทำเป็นปกติอยู่แล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2023 เมื่อ 01:19
|