ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 27-06-2021, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,771 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อสุดท้าย เป็นส่วนที่พวกเราทำมามากแล้ว เขาเรียกว่า สัมปโยคปัจจยิชฌนฤทธิ์ เป็นฤทธิ์ที่เกิดจากการสั่งสมในบุญกุศล ในทาน ในศีล ในสมาธิ ในปัญญา พอทำไปถึงระดับหนึ่ง จะดึงดูดแต่สิ่งที่ดี ๆ เข้ามา โดยเฉพาะในส่วนของนักปฏิบัติธรรม แต่สิ่งทั้งหลายที่เข้ามา มีทั้งประโยชน์และโทษ ก็คือถ้าหากว่าเราไปยึดติด ก็ทำให้เกิดกิเลส แต่ถ้าเรารู้จักวาง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็ก่อให้เกิดโทษไม่ได้

เมื่อฤทธิ์ส่วนนี้เกิดขึ้น เราสูญเสียพระนักปฏิบัติไปมากต่อมากแล้ว เพราะว่าจากที่ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นจากกิเลส ก็กลายเป็นทำเพื่อตัวเอง ต้องใช้รถยนต์ดี ๆ ต้องมีกุฏิติดแอร์ ต้องมีโทรศัพท์มือถือรุุ่นล่าสุด เปลี่ยนได้ทุกครั้งที่ออกรุ่นใหม่ หรือไม่ก็อย่างที่เห็นก็คือ เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว "เจ๊งกะบ๊ง" ไปเรียบร้อยแล้ว..! เพราะไม่เข้าใจว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นดาบสองคม

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ฤทธิ์ทั้งหลายเหล่านี้ ส่วนที่ปลอดภัยที่สุดก็คือ ฤทธิ์ที่เกิดจากศีล สมาธิ ปัญญา ก่อให้เกิดญาณวิปผาราฤทธิ์ สมาธิผาราฤทธิ์ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะช่วยเรา อย่างน้อยในการกดกิเลสให้สงบลงชั่วคราว และระดับสูงขึ้นก็คือตัดกิเลสได้ตามกำลังของ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่เราเข้าถึง ถ้าทำได้สูงสุดก็คือ สามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้

ดังนั้น..การที่พวกเราทำงานทำการทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว คล่องตัว ในส่วนนี้ต้องบอกว่าเป็นส่วนของทั้ง ศีล สมาธิ ปัญญา รวมกัน และขณะเดียวกันก็เป็นกัมมวิปากชาฤทธิ์ ฤทธิ์ที่เกิดโดยวิบากกรรม ทำให้มีความซวย ต้องมาอยู่วัดท่าขนุน ทำอะไรช้าหลวงพ่อก็ด่าเอา..!

เพราะฉะนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ท่านจะภูมิใจดี หรือว่าจะรู้สึกเศร้าใจ กระผม/อาตมภาพก็บอกไม่ถูก เมื่อเห็นสิ่งที่ท่านทั้งหลายกระทำแล้ว ก็คิดถึงเรื่องฤทธิ์นี้ขึ้นมา ซึ่งมีทั้งในส่วนที่เป็นประโยชน์และส่วนที่เป็นโทษ พวกเราก็ต้องละในส่วนที่เป็นโทษ และใช้เฉพาะในส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติธรรมของเราเท่านั้น

ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวแก่ญาติโยม ทั้งที่นี่และที่บ้านให้ทราบไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอเจริญพร


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2021 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา