ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 13-05-2021, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,781 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...จึงเรียนถวายพระภิกษุสามเณรทุกรูป ตลอดจนกระทั่งญาติโยมว่า สติต้องรู้รอบ สมาธิต้องทรงตัว ปัญญาต้องแหลมคมว่องไว สิ่งทั้งหลายเหล่านี้สำคัญตรงข้อกลาง คือ สมาธิ ถ้าสมาธิทรงตัว สติจะตั้งมั่น ปัญญาจะแหลมคมว่องไว

ดังนั้น...ท่านทั้งหลายต้องเน้นในการสร้างสมาธิให้ทรงตัว อย่างน้อยก็ระดับปฐมฌานละเอียด ไม่อย่างนั้นแล้วกำลังจะไม่พอสู้กับงาน และที่แย่กว่านั้นคือ ไม่พอที่จะกดกิเลสให้สงบลงได้ ใครจะบอกว่าติดสมาธิ..ปล่อยเขาไป นั่นเป็นเรื่องของคนที่พูดโดยไม่เห็นประโยชน์ของสมาธิ และไม่เข้าใจในสมาธิอย่างแท้จริง

ถ้าหากว่าเรามีสมาธิที่ทรงตัว สติตั้งมั่น รักษาอารมณ์อยู่กับปัจจุบันได้โดยตลอด เราจะเป็นคนที่มีความทุกข์น้อย เพราะว่าไม่ฟุ้งซ่านไปในอดีต และไม่ฟุ้งซ่านไปในอนาคต อารมณ์ใจอยู่กับเฉพาะหน้า งานอะไรมา ก็ทำไปแค่นั้น

ส่วนอื่นก็ใช้ปัญญาในการพินิจพิจารณาเลือกหาทางของเราว่า สิ่งทั้งหมดที่เราทำนี้เพื่ออะไร ? เป้าหมายของเราคืออะไร ? ถ้ารู้ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เราทำเพื่อละกิเลส ลด รัก โลภ โกรธ หลง ลง ขัดเกลาจิตใจของตนให้ผ่องใสที่สุด เพื่อที่ถึงเวลาแล้ว จะได้ล่วงพ้นจากกองทุกข์ไปสู่พระนิพพาน

ถ้าเป้าหมายชัดเจนขนาดนี้ ก็ทำไปเถอะครับ สมาธิยิ่งสูงเท่าไร ก็ยิ่งมีคุณแก่ตัวเท่านั้น เพราะว่าท่านมีสติรู้อยู่เฉพาะหน้า ไม่ได้หลงติดในสมาธิ และใช้สมาธินั้นในการตัดละกิเลส ส่งตัวเราเองให้หลุดพ้นจากกองทุกข์ไปสู่พระนิพพาน

ก็ขอฝากข้อคิดให้แก่พระภิกษุสามเณรและญาติโยมไว้แต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2021 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา