"พระมีข้อจำกัดมาก อย่างเช่นว่าพระพุทธเจ้าสั่งห้ามพระสาวกแสดงฤทธิ์ อันนี้จริง ๆ แล้วท่านหวังไม่ให้คนยึดติดตัวบุคคล เพราะว่าการยึดติดตัวบุคคลจะเข้าถึงมรรคถึงผลไม่ได้ การจะเข้าถึงมรรคถึงผลต้องเข้าถึงคุณพระรัตนตรัยจริง ๆ แล้วคุณพระรัตนตรัยตรงนี้เป็นนามธรรม ไม่ใช่รูปธรรม ก็คือไม่ใช่พระพุทธรูป ไม่ใช่คัมภีร์พระธรรม ไม่ใช่พระภิกษุสงฆ์ แต่เป็นคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จริง ๆ
ถ้าไปแสดงฤทธิ์แล้วคนเห็น ก็จะไปยึดติดเฉพาะตัวบุคคลนั้น ๆ ทำให้เข้าไม่ถึงมรรคผลที่ตนเองต้องการ แต่ศาสนาอื่นของเขาไม่มีข้อจำกัดตรงจุดนี้ แต่ว่าผู้ที่ได้อภิญญาสมาบัติ ส่วนใหญ่ก็จะรู้ว่าตัวเองแสดงได้แค่ไหน อย่างที่ฝรั่งไปเที่ยวอินเดียแล้วก็ถ่ายวิดีโอ อยู่ ๆ โยคีที่อยู่ห่างออกไปไกลลิบ ๆ เหาะวูบหายไปเลย โยคีเขาก็ไม่คิดหรอกว่าจะมีฝรั่งทะลึ่งถ่ายวิดีโออยู่ เขาก็ถ่ายประเภทวัดวาอารามทิวทัศน์ของเขา ไปติดโยคีตอนกำลังเหาะพอดี
ในเมื่อรู้ว่าแสดงแค่ไหนถึงจะพอเหมาะพอดี ก็เลยไม่ค่อยมีใครที่ทำให้คนเขาเห็นกันมากมาย ส่วนใหญ่ปัจจุบันนี้ก็ทำมาในลักษณะที่บอกว่าเล่นกล เป็นมายากล เป็น Magician อ้างออกไปในแนวนั้นก็สบาย พอบอกว่าเล่นกล คนก็คิดว่าเล่นกลก็จบแล้ว คราวนี้พระก็ดันเล่นกลไม่ได้อีก วิชาเล่นกลสมัยพุทธกาลเขาก็มีอยู่"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-09-2019 เมื่อ 02:26
|