ดูแบบคำตอบเดียว
  #30  
เก่า 03-12-2009, 16:48
ป้านุช's Avatar
ป้านุช ป้านุช is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: Bangkok Thailand
ข้อความ: 866
ได้ให้อนุโมทนา: 21,453
ได้รับอนุโมทนา 109,723 ครั้ง ใน 2,785 โพสต์
ป้านุช is on a distinguished road
Lightbulb

คำสอนสมเด็จองค์ปฐม


อาการเสื่อมไปของอิริยาบถก็เป็นทุกข์

กาลเวลาที่ล่วงไป อย่าลืม..ความตายยิ่งใกล้เข้ามา เวลานี้พวกเจ้าโจทย์จิตเรื่องอารมณ์เข้าไว้ให้เต็มที่
กำหนดรู้สภาวธรรมที่เข้ามากระทบจิตให้ชัดเจนแจ่มใส
จักได้ไม่หลง ไม่ไหลไปในสภาวะของธรรมนั้น ๆ
หาความจริงของต้นเหตุแห่งทุกข์ในธรรมนั้น ๆ ให้พบ
แล้วพิจารณาละสังโยชน์อันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ในธรรมนั้น ๆ



เจ้าจักเห็นได้ว่า ทุกข์อันเกิดจากโรคะของร่างกาย ที่เข้ามาเบียดเบียนอารมณ์จิตนี้นั้นมีอยู่
ตราบใดที่ยังมีร่างกายอันเต็มไปด้วยรังของโรคนี้ เวทนาอันเกิดจากความเบียดเบียนก็ไม่เที่ยง
บัดเดี๋ยวเกิด บัดเดี๋ยวดับ ร่างกายนี้ไม่ได้สร้างความสุขที่แท้จริงให้กับจิตเลย


ในเมื่อร่างกายเบียดเบียนอารมณ์ของจิตอยู่เยี่ยงนี้ พวกเจ้าก็จงทำความเบื่อหน่ายในการอยากมีร่างกายเยี่ยงนี้ลงเสีย
ด้วยการพิจารณาทุกข์อันเกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าทุกข์อันเป็นนิพัทธทุกข์ ทุกข์เนืองนิตย์
เช่น อาการหิว กระหาย ร้อน หนาว ปวดปัสสาวะและอุจจาระเป็นต้น
และทุกข์อันเกิดจากการเสวยอารมณ์แห่งอายตนะ ๑๒ นอกกับใน กระทบกันให้รู้อยู่ตลอดเวลา


อาการเสื่อมไปของอิริยาบถ ก็เป็นทุกข์ที่พึงกำหนดรู้
ให้เห็นว่า นี่ก็เป็นโรคะนิทธังอย่างหนึ่งของร่างกายเช่นกัน
ตลอดอาการ ๓๒ ของร่างกายเป็นโรคทั้งสิ้น พิจารณาไป อย่าให้จิตออกนอกทาง ดูอารมณ์เอาไว้ให้ดี ๆ


จงยอมรับกฎธรรมดา ทำความเบื่อหน่ายร่างกายที่เต็มไปด้วยโรคนี้เสีย
และเห็นความไม่เที่ยง ซึ่งมีแต่การเกิด เสื่อม ดับ ของธรรมแห่งการมีร่างกายนี้
เห็นธรรมใด ๆ ในโลกที่เข้ามากระทบอารมณ์ตามสภาพความเป็นจริง

ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เที่ยง ตกอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ทั้งสิ้น
ยึดถือเข้ามาในอารมณ์เมื่อไหร่ ก็ทุกข์บังเกิดขึ้นเมื่อนั้น



จงหมั่นกำหนดรู้ และวางอารมณ์ให้หลุดพ้นจากการเกาะติดในธรรมแห่งโลกนั้น ๆ
ตั้งจิตไว้มั่นคง จับจุดหมายปลายทางแห่งความต้องการที่จักพ้นทุกข์เข้าไว้ ทำกำลังใจให้เต็ม

ใช้ความเพียรรักษาอารมณ์ของจิต ที่จักทำเพื่อพระนิพพานเข้าไว้


การละสังโยชน์เป็นของไม่ยาก หากทำกำลังใจในบารมี ๑๐ ให้เต็มอยู่เสมอ
พร้อมที่จักทำจริงอยู่เสมอ ก้าวเข้าไปใกล้พระนิพพานแล้ว รักษาอารมณ์อย่าให้บังเกิดความท้อแท้เป็นอันขาด
อย่าหมดกำลังใจ การหมดกำลังใจคืออารมณ์หลง จัดเป็นนิวรณ์คือถีนมิทธะ จำเอาไว้ให้ดี
อารมณ์ใดเป็นนิวรณ์ ให้พยายามระงับตัดทิ้งไปเสียจากจิต


พวกเจ้าจักต้องรู้อารมณ์เข้าไว้ทุก ๆ ขณะจิต ต้องหมั่นใช้สติตามกำหนดรู้เข้าไว้
อย่าให้คลาดสายตาของจิต การทรงอานาปานัสสติกรรมฐาน แม้เพียงปฐมฌานก็จักทำให้มีสติมั่นคงได้
ทุกอย่างต้องมีขั้นตอน ต้องทำตามขั้นตอนนั้น จิตจึงจักทรงตัวอยู่ได้ในการกำหนดรู้อารมณ์นั้น ๆ


การมีศีล สมาธิ ปัญญา จึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักปฏิบัติ เพื่อละอารมณ์แห่งทุกข์นั้น ๆ
พวกเจ้าจงหมั่นตรวจตรา อย่าให้ข้อวัตรปฏิบัติเหล่านี้ขาดตกบกพร่องไปจากจิตของตนเป็นอันขาด
จึงจักสามารถเป็นกำลังตัดสังโยชน์ให้หมดจดลงได้


จากหนังสือ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
__________________
เสียงธรรมจากพระองค์ที่ ๑๐
ธรรมพระพุทธเจ้า คือธรรมชาติ ธรรมชาติที่ทุกคนก็มีอยู่ในตัวเอง
เพราะฉะนั้นเธอก็มีธรรมะ ฉันก็มีธรรมะ เธอกับฉันมีธรรมเสมอกันคือความตาย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2009 เมื่อ 03:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ป้านุช ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา