"บิดาของยสกุลบุตรถามพระพุทธเจ้าว่าเห็นลูกของตนไหม ? พระพุทธเจ้าก็บอกว่าให้ฟังธรรมก่อนเดี๋ยวจะบอกให้ พระองค์ก็เทศน์อนุปุพพิกถาให้ฟัง ทั้งบิดา มารดาและภรรยา กลายเป็นพระโสดาบัน พระยสะได้ฟังซ้ำกลายเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าจึงคลายฤทธิ์ให้ทั้งหมดได้เจอกัน บิดาก็ดีใจเลยชวนลูกกลับ พระพุทธเจ้าบอกว่า กิจในการกลับไปครองเรือนของลูกท่านไม่มีแล้ว ท่านกลายเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว
ตอนที่บิดามารดายังไม่ได้เป็นพระโสดาบัน ถ้าพระพุทธเจ้าตรัสไปอย่างนี้เขาจะไม่เชื่อและไม่ยอมเด็ดขาด ก็เลยต้องกำบังกายไว้ไม่ให้เห็นก่อน พอทั้งสามกลายเป็นพระโสดาบันทีนี้เข้าใจเลย บิดาของพระยสะจึงตัดสินใจให้ลูกบวช พระพุทธเจ้าก็ตรัสเอหิภิกขุ พระยสะกลายเป็นพระภิกษุไป ส่วนบิดามารดาและภรรยาก็ปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ ถึงพระรัตนตรัยตลอดชีวิต ความจริงระดับนั้นไม่ต้องปฏิญาณหรอก แต่ว่าทำตามธรรมเนียม (พุทธมามโกติหรือพุทธมามกาติ แล้วแต่ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย)
หลังจากนั้นก็ทูลเชิญพระสงฆ์และพระลูกชายไปฉันที่บ้าน พอเพื่อนได้ข่าวก็แห่กันมา มีท่านวิมละ ท่านสุพาหุ ท่านปุณณชิ และท่านควัมปติ พระยสะก็แสดงธรรมให้เพื่อนฟัง ด้วยความที่เป็นเพื่อนรักกันมาก แล้วก็เชื่อว่าพระธรรมวินัยนี้ไม่เป็นหมันแน่นอน ก็เลยพากันบวชตาม กลายเป็นพระอรหันต์ไปตาม ๆ กัน แล้วไปชักชวนเพื่อนมาอีก ๕๐ คน บวชกันหมดกลายเป็นพระอรหันต์ ๕๕ รูป ก็เลยกลายเป็นธรรมทูตรุ่นแรกที่พระพุทธเจ้าส่งไปประกาศพระศาสนา ท่านใช้คำว่า จรถ ภิกฺขเว จาริกํ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ ท่านบอกว่า "ดูกร..ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงเที่ยวไป เพื่อยังประโยชน์และความสุขให้แก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์แก่โลก เพื่อประโยชน์ของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย แต่จงอย่าไปทางเดียวกันสองคน ให้ไปคนเดียว" เพราะตอนนั้นพระยังน้อยอยู่ มีแค่ ๖๐ รูปเท่านั้น"
ถาม : อ้าว..แล้วพระมาจากไหนอีก ๕ รูป ?
ตอบ : ปัญจวัคคีย์
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2010 เมื่อ 14:10
|