วันนี้จะมาต่อกันเรื่อง ราชการสงครามของ ท่านเจ้าคุณผู้ใหญ่ กันต่อนะครับ
ราชการสงครามครั้งที่ ๒
รุ่งขึ้นปีชวด พ.ศ. ๒๓๗๑ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯให้เจ้าพระยาราชสุภาวดี(สิงห์)ผู้ว่าที่สมุหนายก ยกกองทัพไปนครเวียงจันทน์อีกครั้ง
เมื่อไปถึงหนองบัวลำภู เจ้าพระยาราชสุภาวดี(สิงห์)ก็แต่งให้
พระยาราชรองเมือง,
พระยาพิชัยสงคราม,
พระยาทุกขราษฎร์เมืองนครราชสีมา,
หลวงสุเรนทรวิชิต เป็นกองหน้าคุมทหาร ๕๐๐ คน ยกล่วงหน้าขึ้นไปตั้งอยู่บ้านพันพร้าวก่อน
ครั้นกองหน้าไปถึงบ้านพันพร้าว ได้ทราบข่าวเพี้ยกรมการที่ให้อยู่รักษานครเวียงจันทน์ มีกิริยาอาการผิดปกติอยู่บ้าง พระยาราชรองเมืองไม่ไว้ใจแก่เหตุการณ์จึงจัดให้พระยาพิชัยสงคราม พระยาทุกขราษฎร์ หลวงสุเรนทรวิชิต แบ่งกำลัง ๓๐๐ คน ยกข้ามแม่น้ำโขงไปตั้งฟังราชการอยู่ที่นครเวียงจ้นทน์
ฝ่ายเจ้าอนุวงศ์ที่หนีไปพึ่งญวน ญวนอุดหนุนและนำมาส่งยังนครเวียงจันทน์ พร้อมทั้งมีกำลังในอาณาเขตเวียงจันทน์ประมาณ ๑,๐๐๐ คน เป็นพวกญวนราว ๘๐ คนเศษ เจ้าอนุวงศ์ทำเป็นทียอมสารภาพรับผิดแสดงไมตรีจิตกับนายทัพนายกองไทยเป็นอย่างดี จนนายทัพนายกองไทยหลงเชื่อว่าเจ้าอนุวงศ์จะไม่เป็นปรปักษ์อีก
พอรุ่งขึ้นเพลาบ่าย ๔ โมง
เจ้าอนุวงศ์ก็ยกพวกเข้าล้อมยิงกองพระยาพิชัยสงคราม พระยาทุกขราษฎร์ หลวงสุเรนทรวิชิต ซึ่งตายใจมิได้ระวังคุมเชิงไว้ พลทหารอยู่บ้างไม่อยู่บ้าง ในที่สุดก็แตกเสียทีแก่เจ้าอนุวงศ์ทั้งนายทั้งพลถูกฆ่าตายเกือบหมด ที่พยายามหนีลงน้ำจะว่ายข้ามฟากมา ก็ถูกพวกเจ้าอนุวงศ์ลงเรือตามฆ่าฟันย่อยยับ
เหลือรอดตายว่ายน้ำหนีมาได้คือ หมื่นรักษานาเวศกับพลทหารเพียง ๔๐ เศษ
เจ้าพระยาราชสุภาวดี(สิงห์)ได้ทราบว่าพวกญวนพาเจ้าอนุวงศ์กลับมานครเวียงจันทน์ ก็รีบเดินทัพไปพอถึงค่ายพันพร้าวบ่าย ๓ โมง ก่อนหน้าที่พระเจ้าอนุวงศ์จะลงมือล้อมยิงกองพระยาพิชัยสงครามเพียงชั่วโมงเดียว เจ้าพระยาราชสุภาวดี(สิงห์)เห็นชาวเวียงจันทน์กลุ้มรุมฆ่าฟันที่หาดทรายหน้าเมืองก็เข้าใจว่ากองพระยาพิชัยสงครามคงเป็นอันตราย เป็นเวลาจวนตัวจะรีบยกกองทัพข้ามไปช่วย เรือก็ไม่มี ทั้งกำลังคนก็ยังน้อย
พอเวลาค่ำหมื่นรักษาเทเวศมารายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนเย็น เจ้าพระยาราชสุภาวดี(สิงห์)จะตั้งรับอยู่ที่ค่ายพันพร้าวทหารก็น้อยตัว จะถอนมานครราชสีมาก็ไกลนัก พระยาเชียงสาเรียนว่า เมืองยโสธรผู้คนข้าวปลาอาหารบริบูรณ์ รับอาสาจะนำเดินทางลัดก็ตกลงออกเดินทางจากค่ายพันพร้าวในคืนวันนั้น มุ่งตรงไปยังเมืองยโสธรทันที
------------------------------------------------
หมายเหตุเพิ่มเติม
(ภายหลัง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนราชทินนามของ " ทุกขราษฎร์ " นี้เป็น "บรรเทาทุกขราษฎร์" แทน : ขอติดเรื่อง ปี พุทธศักราช ที่เปลี่ยนไว้ก่อนนะครับ จะขอไปตรวจสอบดูอีกครั้งหนึ่งก่อนครับ )