เรื่องที่สองที่จะบอกกล่าวในที่นี้ก็คือ มีจดหมายในลักษณะบัตรสนเท่ห์มาถึงพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. บอกว่าเป็นชาวบ้านที่อยู่รอบวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ เห็นสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นภายในวัด จึงรายงานมา โดยมีคำขู่แนบท้ายมาว่า ถ้าหากว่ากระผม/อาตมภาพไม่จัดการให้เป็นไปตามความต้องการของเขา ก็จะมีการเดินขบวนประท้วง..!
ตรงนี้อันดับแรกที่ต้องทำความเข้าใจเลยก็คือว่า กระผม/อาตมภาพไม่มีอำนาจอะไรที่จะไปจัดการเลย เพราะว่าวัดแต่ละวัดนั้น ตามพระราชบัญญัติสงฆ์ มาตราที่ ๓๘ ให้อำนาจเจ้าอาวาสไว้ มาตราที่ ๓๗ ระบุชัดว่าเจ้าอาวาสมีหน้าที่อะไรบ้าง มาตราที่ ๓๘ ระบุชัดไว้ว่า อำนาจของเจ้าอาวาสจะใช้ไปในด้านใดบ้าง
โดยเฉพาะมาตราที่ ๔๕ ระบุชัดว่า เจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ในเมื่อเป็นเช่นนั้นสิทธิ์ขาดทั้งหมดจะอยู่ที่เจ้าอาวาสดำเนินการ อาตมภาพเท่ากับเป็นคนอื่น หรือคนนอก ซึ่งไม่มีโอกาสที่จะไปแตะต้องอะไรตรงนั้นได้เลย นี่คือเรื่องที่หนึ่ง
เรื่องที่สองก็คือ คนเขียนจดหมายสนเท่ห์มา ไม่รู้จักพระอาจารย์เล็กว่าเป็นใคร ก็เลยไม่รู้ว่าพอจดหมายถึงมือ กระผม/อาตมภาพก็รู้หมดแล้วว่าเขาคือใคร..! เพราะฉะนั้น..ต่อไปอย่าทำพฤติกรรมแหกตากูแบบนี้อีก..! มึงจะอยู่ในวัดหรือนอกวัด ถ้ารายงานมา..กูรับทั้งนั้น ไม่ต้องไปอ้างตัวว่าเป็นคนข้างวัด แล้วก็ไม่ต้องปลอมลายมือให้เสียเวลา
เพราะฉะนั้น..เรื่องพวกนี้บางทีอาตมภาพก็ไม่อยากที่จะเปิดเผย และไม่อยากที่จะบอก แต่ดันมีคนเห็นว่ากระผม/อาตมภาพโง่กว่า พยายามที่จะเข้ามาแหกตากัน..! ซึ่งตรงจุดนี้ถ้าไม่บอกเอาไว้ให้รู้บ้าง ความประพฤติอย่างนี้ก็คงจะมีต่อไปอีก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-09-2021 เมื่อ 23:43
|