ส่วนอีกสถานที่หนึ่งนั้นเป็นอุบาสกบริษัท พยายามเผยแผ่หลักการไปพระนิพพานโดยการอธิษฐานเท่านั้น ได้ส่งเอกสารมาหากระผม/อาตมภาพมาหลายครั้งมาก ว่าให้ช่วยเผยแผ่ข้อมูลนี้ด้วย เพราะว่าท่านมีลูกศิษย์ลูกหามาก ซึ่งกระผม/อาตมภาพพิจารณาแล้วว่า เผยแผ่ไปเท่าไรก็นำคนเป็นมิจฉาทิฐิเท่านั้น เนื่องเพราะว่าการอธิษฐานนั้น เป็นการปักใจมั่นว่าเราจะทำสิ่งหนึ่งประการใด เมื่อปักใจแล้วไม่ได้ทำอะไรเลย สิ่งนั้นจะสำเร็จได้หรือไม่ ?
จากการที่เขาพยายามยกตัวอย่างคนนั้นคนนี้ว่า อธิษฐานแล้วถึงเวลาตายก็ไปพระนิพพานได้ กระผม/อาตมภาพอยากให้พิจารณาว่าก่อนตายเขาทำอะไร ซึ่งจะขอยืนยันตรงนี้ว่า ไม่มีใครสามารถไปพระนิพพานได้ด้วยการอธิษฐานอย่างเดียว หากแต่ต้องชำระจิตใจของตนเองให้ปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง อย่างแท้จริง
โดยเฉพาะบุคคลที่อธิษฐานขอไปพระนิพพาน แล้วสามารถไปได้ก่อนตายนั้น ส่วนใหญ่ก่อนตายเกิดทุกขเวทนาบีบคั้นร่างกายหนักมาก ทำให้เห็นทุกข์เห็นโทษ จิตใจของตนก็เลยปลดออกจากการยึดเกาะร่างกายนี้ ซึ่งมีแต่ความทุกข์ ปลดจากการยึดเกาะโลกนี้ที่มีแต่ความทุกข์ ในเมื่อไม่ยึดติดอะไรเลย ก็ย่อมมีพระนิพพานเป็นที่ไป ซึ่งตรงจุดนี้เป็นจุดที่สำคัญที่สุด เพราะว่าต้องมีปุพเพกตปุญญตา คือบุญเก่าที่สร้างสมมาดีด้วย จึงทำให้เกิดปัญญาญาณแก่กล้า สามารถตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานตอนช่วงก่อนตายได้
ไม่ใช่อธิษฐานอย่างเดียวแล้วจะไปพระนิพพานได้ หากแต่ต้องมีวิปัสสนาญาณที่แท้จริง เห็นทุกข์เห็นโทษของการเกิดมีร่างกายนี้ เห็นทุกข์เห็นโทษของการเกิดมีในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนนี้ แล้วเกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ปลดใจของตนเองจากการยึดเกาะจากสิ่งทั้งหลายทั้งปวง ถึงจะไปพระนิพพานได้
ดังนั้น...ในส่วนนี้ของอุบาสกอุบาสิกาบริษัทซึ่งทำเกินหน้าที่ ก็คือสอนธรรมผิด ๆ มีสิทธิ์พาคนเป็นมิจฉาทิฐิอีกมาก เมื่อนำคนเป็นมิจฉาทิฐิ ย่อมทำให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นต้องเวียนว่ายตายเกิดทุกข์ยากในห้วงวัฏสงสารนี้แบบไม่รู้จบ ซึ่งต้องบอกว่าผู้สอนก็จะมีโทษที่หนักมาก ไม่ว่าจะสอนด้วยความเข้าใจผิดหรือไม่ก็ตาม เท่ากับว่านำพาหนทางของคนอื่นให้ยาวไกลไปโดยใช่เหตุ
จึงเป็นเรื่องที่ทุกท่านจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูงว่า ตัวเราแม้เป็นผู้ปฏิบัติธรรม ก็ยังอาจจะหลงออกนอกลู่นอกทางได้ง่าย แต่ก็ต้องเร่งปฏิบัติโดยอาศัยศีล ๕ เป็นกรอบ หรืออาศัยกรรมบถ ๑๐ เป็นกรอบ ถ้าไม่หลุดจากกรอบของศีล ๕ หรือกรรมบถ ๑๐ โอกาสที่ท่านจะหลงทางไปไกลก็น้อยลง ทำให้การปฏิบัติธรรมของท่านมีโอกาสที่จะเห็นผลได้ง่าย เมื่อเห็นผลแล้ว ก็สามารถเป็นทนายแก้ต่างแทนให้พระพุทธศาสนาได้ เพราะว่ามีความเข้าถึงและเข้าใจในธรรมอย่างแท้จริง
สำหรับวันนี้ก็ต้องขอบอกกล่าวแก่พระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทั้งหลายที่ฟังอยู่ทั้งที่นี่และที่บ้าน ทั้งในและต่างประเทศแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2022 เมื่อ 03:45
|