"คราวนี้เรามาเกิดอยู่ในยุคกัปข้างเสื่อม ก็ต้องบอกว่าเป็นโชคดีอย่างหนึ่ง เพราะว่าเห็นทุกข์ได้ง่าย เพียงแต่ปัญญาจะถึงหรือเปล่า ?
ความทุกข์ทุกประเภทปรากฏให้เห็นชัด ๆ ต่อหน้า เอาแค่ฤดูกาลนี้ ก็ไม่รู้ว่าพายุฤดูร้อนถล่มบ้านไปกี่ร้อยกี่พันหลังแล้ว อยู่ดี ๆ ก็บ้านพัง ต้องสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ถ้าหากว่าไม่มีรายได้ก็ต้องกู้หนี้ยืมสิน หรือรอทางราชการมาช่วยเหลือ บรรดาชาวสวนชาวไร่ก็โดนพายุทำลายพืชผล อย่างทางจันทบุรีนี่ทุเรียนหมดไปทั้งสวนเลยก็มี
หรือถ้าจะเอาใกล้ ๆ อย่างในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พวกเราแค่ไปเฝ้าดูพระราชพิธี ในหลวงทรงมีรับสั่งให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนให้มากที่สุด ถามว่าอำนวยความสะดวกอย่างไรบ้าง ? ที่อยู่ที่กิน ก็แปลว่าเห็นชัด ๆ ถึงความทุกข์ ก็คือความหิวความกระหาย ปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ พวกนี้พอบรรเทาได้
แต่ในพระราชพิธีกินพื้นที่กว้างไกลมาก บรรเทาเรื่องอากาศร้อนไม่ได้ ก็แปลว่าอย่างไรเสียก็ต้องแบกรับความทุกข์ไปส่วนหนึ่ง แต่เนื่องจากว่าความปีติที่จะได้เห็นสิ่งที่เห็นได้ยาก ก็อาจจะทำให้มองข้ามความทุกข์ไป เราจะเห็นว่าไม่ว่าใกล้หรือไกล ความทุกข์อยู่กับเราตลอดเวลา เพียงแต่ว่าจะมีปัญญามองเห็นหรือไม่เท่านั้น"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2019 เมื่อ 08:57
|