"ทั้งหมดเกิดจากทิพจักขุญาณอย่างเดียว แค่เปลี่ยนวิธีใช้เท่านั้น เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าต้องการ ก็ลองใช้ ๒ อย่าง อย่างแรกลองฝึกมโนมยิทธิดู ที่วัดท่าซุงมีสอนทุกวัน บ้านสายลมทุกเสาร์ - อาทิตย์ต้นเดือนก็มีสอน
ถ้าฝึกเองก็ใช้กสิณ เพ่งสีขาว เพ่งแสงสว่าง หรือลูกแก้วก็ได้ หรือไม่ก็เพ่งไฟ พออารมณ์ใจทรงตัว ภาพกสิณจะติดตาติดใจ หลับตาก็เห็น ลืมตาก็เห็น เราก็เอาสติช่วยประคับประคองไว้ จนภาพกสิณนั้นเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นสว่างเจิดจ้าเมื่อไร ก็ลองอธิษฐานขอให้ใหญ่ ให้เล็กดู
ถ้าใหญ่ได้เล็กได้ มาได้ไปได้ ก็อธิษฐานขอให้เห็นนั่นเห็นนี่ได้ ใช้ความพยายามหน่อยจ้ะ ไม่กี่ชาติก็ได้แล้ว..!
การฝึกปฏิบัติเป็นการสั่งสมบารมี ไม่สำเร็จรูปเหมือนเข้าร้านสะดวกซื้อไปซื้อเอา เพราะฉะนั้น..ต้องใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ทำไป ต้องการอะไรตั้งใจเอาไว้ แต่ตอนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำ ให้ลืมความต้องการนั้นเสีย เรามีหน้าที่ปฏิบัติอย่างเดียว ถึงเวลาผลจะเกิดเอง
เหมือนกับการปลูกต้นไม้ เราก็รดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ยของเราไป ดูแลกำจัดวัชพืช กำจัดหนอนแมลงไป ถึงเวลาต้นไม้ก็ออกดอกออกผลเอง ไม่ใช่เราไปเร่ง ดึงยอดให้โตเร็ว ๆ หน่อย แบบนั้นเดี๋ยวก็ตายคามือ..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-08-2011 เมื่อ 20:27
|