"สมัยนี้ถ้าจะให้เงินเดือนพอที่จะซื้อทองได้หนึ่งบาท ก็ต้องเกือบ ๓๐,๐๐๐ บาท แต่สมัยนั้นแค่ ๒,๐๐๐ กว่าบาท สมัยโน้นพอเป็นจ่าสิบเอกเต็มขั้นก็ได้เงินเดือน ๔,๘๐๐ บาท ก็เลยไม่มีใครอยากจะเป็นนายร้อยกัน เพราะว่าจ่าสิบเอกขั้น ๑๘ เป็นนายสิบอาวุโส ทำหน้าที่นายทหาร ได้เงินเดือน ๔,๘๐๐ บาท แต่พอขึ้นเป็นร้อยตรีต้องมารับเงินเดือนร้อยตรีขั้น ๓ ซึ่งอยู่ที่ ๒,๒๐๐ บาท ก็เลยไม่มีใครอยากจะเป็นนายร้อยกัน
ยกเว้นแค่ ๖ เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ ประมาณช่วงเดือนเมษายน ก็จะทำเรื่องขอยศร้อยตรีเพื่อที่จะได้เป็นเกียรติของวงศ์ตระกูล คือเงินเดือนไม่อยากได้แล้ว คราวนี้อยากได้กระบี่พระราชทาน เพราะว่านายร้อยจะต้องมีกระบี่พระราชทาน เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลว่าเป็นนายทหารสัญญาบัตรเหมือนกัน ตอนนั้นจะเกษียณแล้ว จึงยอมรับเงินเดือนสองพันกว่าบาท
คนที่เป็นนายสิบอาวุโสเงินเดือนเต็มขั้น ๔,๘๐๐ บาท ไม่มีใครอยากที่จะลงมาเป็นนายร้อย เพราะว่าส่วนใหญ่มีครอบครัว มีลูกมีเมีย ถ้าเงินเดือนหายไปตั้งครึ่งตั้งค่อน จะเอาอะไรไปเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ? ก็เลยตัดสินใจเป็นแค่จ่าแก่ ๆ ไปก่อนดีกว่า"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:30
|