ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 20-06-2021, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,669 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จะว่าไปแล้วก็เกิดจาก รัก โลภ โกรธ หลง ธรรมดานี่เอง เพียงแต่ว่าเป็นเรื่องของความโลภความหลงที่หนักหนาสาหัส จนกลายเป็นมอดเป็นปลวก แทะประเทศชาติของเราจนพรุนไปหมด..!

ต่อให้ได้คนดีแค่ไหนเข้ามาแก้ไข ถ้าเราไม่สามารถที่จะอบรมให้ชาวบ้านละอายชั่วกลัวบาป เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็จะไม่จบลง จึงเป็นหน้าที่ของเราท่านทั้งหลาย ที่ทำอย่างไรจะให้ญาติโยมลดความ รัก โลภ โกรธ หลง ของตนเองลง ก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องฝึกฝนตนเองให้มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในการต่อสู้กับกิเลส จะได้นำไปบอกกล่าวให้แก่ญาติโยมเขาได้อย่างชัดเจน

เพราะว่าส่วนใหญ่พวกท่านปฏิบัติธรรมมา บางคนนี่นับสิบปี ถ้าเป็นลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุงเก่า ๆ ก็หลายสิบปี แต่ส่วนหนึ่งที่ผมเห็นเป็นปกติก็คือ เวลาชนกับกิเลสแล้วงัดกรรมฐานขึ้นมาสู้ไม่ทัน เพราะว่าขาดความชำนาญ ขาดความคล่องตัว ความโลภเข้ามาจะแก้อย่างไร ? ความรักเข้ามาจะแก้อย่างไร ? โทสะเข้ามาจะแก้อย่างไร ? โมหะเข้ามาจะแก้อย่างไร ? เตรียมตัวไม่ทัน โดนกิเลสตีหงายท้องทุกครั้ง แล้วก็เกิดอาการสมาธิตก จิตตก กรรมฐานแตก แต่ไม่เคยพินิจพิจารณาว่าข้อผิดพลาดของตนเองอยู่ตรงไหน ?

ในเมื่อไม่เห็นข้อผิดพลาด ก็แก้ไขตนเองไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าหากว่าผิดตรงไหนก็ตาม ต่อไปต้องไม่ผิดตรงนั้นอีก ถึงพอจะมีทางก้าวหน้าได้ ไม่ใช่ผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เรื่องเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2021 เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา