ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 15-08-2021, 22:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,549
ได้ให้อนุโมทนา: 151,614
ได้รับอนุโมทนา 4,407,276 ครั้ง ใน 34,139 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อสองวันที่ผ่านมา กระผม/อาตมภาพรับกิจนิมนต์ไปงานพุทธาภิเษก ๒ แห่ง ลูกศิษย์คนหนึ่งก็คือทิดเฟิร์ส (นายบัณฑิต เอี่ยมตระกูล) พยายามที่จะศึกษาทุกสิ่งทุกอย่างที่กระผม/อาตมภาพเรียนรู้เอาไว้

แต่คราวนี้ในตอนพุทธาภิเษกนั้น ตามสายของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หรือหลวงพ่อวัดท่าซุง เราจะกราบขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ แล้วหลังจากนั้นพระท่านสั่งให้ทำอะไรก็ทำอย่างนั้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเข้าสู่ความสงบของใจให้เร็วที่สุด และลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ใจของเราสะอาดที่สุด จะได้รับสิ่งต่าง ๆ ที่พระ หรือว่าพรหม เทวดา หรือครูบาอาจารย์ท่านบอกกล่าวได้อย่างชัดเจนที่สุด แล้วจะได้กระทำตามนั้น

แต่คราวนี้ทิดเฟิร์สนั้นห่วงหน้าพะวงหลัง ก็คือห่วงว่างานป่านนี้ไปถึงไหนแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องของเรา แล้วก็ยังไปเดาว่าหลวงพ่อน่าจะออกจากสมาธิตอนนี้ เพื่อที่จะเตรียมการรับใช้ให้ทัน

เมื่อวันแรกเป็นเช่นนั้นก็เลยดุไป แล้วก็บอกกล่าวให้รู้ว่า สิ่งที่ทำนั้นไม่ใช่ เวลาที่พระหรือว่าพรหม เทวดา หรือครูบาอาจารย์ท่านมาในพิธี กระแสของท่านที่ครอบคลุมลงมา เราต้องทำใจของเราให้คู่ควรที่สุดที่จะรับกระแสนั้นได้ ก็แปลว่าต้องใช้สมาธิสูงสุดที่เรามี ให้ใจนิ่งที่สุด สงบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เหมือนอย่างที่หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ไปขอศึกษาวิชาเสกปลัดขิก จากหลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงก ท่านถามว่า "หลวงพี่..ทำกำลังใจอย่างไร ถึงเสกปลัดขิกให้วิ่งได้ ?" หลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงกบอกว่า "ก็แค่ให้นิ่งเท่านั้น" หลวงปู่ทิมท่านเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า แค่ประโยคเดียว ท่านต้องใช้เวลาถึง ๓ ปี กว่าที่จะควานหาเจอว่า คำว่า "แค่ให้นิ่งเท่านั้น" ของหลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงก คือนิ่งแค่ไหน

เพราะว่ากำลังใจตั้งแต่ตอนท้ายของอุปจารสมาธิ ที่หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านใช้คำว่า "อุปจารฌาน" ขึ้นไป ความนิ่งสงบของใจก็ปรากฏแล้ว แต่คราวนี้หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่นั้น กำลังของท่านสูงเกินไปกว่านั้น

เหมือนที่กระผม/อาตมภาพ สมัยที่ยังสอนมโนมยิทธิอยู่ เปรียบว่า ทิพจักขุญาณนั้นจะปรากฏใน ๒ วาระด้วยกัน วาระแรกก็คืออุปจารสมาธิ วาระที่สองก็คือฌาน ๔ เต็มระดับ เหมือนกับเรามีห้องสองห้อง ที่สภาพการณ์ทุกอย่างเหมือนกันหมด ห้องหนึ่งอยู่ชั้นล่าง ห้องหนึ่งอยู่ชั้นบน มีบันไดเชื่อมต่อให้จากข้างล่างขึ้นถึงข้างบนได้

ส่วนใหญ่แล้วพวกเราที่ฝึกนั้น เป็นช่วงที่
กำลังอยู่บนบันได ก็คือครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไปก็ไปไม่สุด ลดก็ลดไม่เป็น ในเมื่อหลวงปู่ทิมท่านจับจุดได้ ท่านแค่ลดกำลังใจลงมาในจุดที่ต้องการเท่านั้น ก็สามารถเสกปลัดขิกให้วิ่งได้ เหมือนกับที่หลวงปู่เหลือ วัดสาวชะโงกทำได้ แค่หาตรงนั้น ท่านต้องใช้เวลาถึง ๓ ปี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-08-2021 เมื่อ 21:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา