ถาม : คนที่จะเรียนมูลกัจจายน์ได้ต้องมีปัญญามากหรือเปล่า ?
ตอบ : ไม่ใช่..เป็นสิ่งที่คนโบราณเขาเรียนกันและรู้กันเป็นปกติ แต่คนสมัยใหม่สมองรับขนาดนั้นไม่ไหว ก็เลยกลายเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้ง ดูอย่างพระสมัยก่อนท่องพระไตรปิฎก ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ได้เป็นเรื่องปกติ สมัยนั้นเขาใช้วิธีส่งต่อกันแบบมุขปาฐะคือท่องจำด้วยปากเปล่า จนกระทั่ง ๕๐๐ ปีผ่านไป ถึงได้มีการจารึกพระไตรปิฎกขึ้นเป็นตัวอักษรขึ้นมาที่ประเทศศรีลังกา เขาท่องกันมา ๕๐๐ กว่าปี สมัยนี้ขนาดเราเปิดคอมพิวเตอร์ยังจำไม่ค่อยจะได้เลย
ปัจจุบันนี้ประเทศพม่ามีพระผู้ทรงจำพระไตรปิฎกได้ เรียกว่าพหูสูตรอยู่ ๙ รูปด้วยกัน อาตมาไปลุ้นเขาอยู่ ๕ ปีติด ๆ กัน สอบตกยกชั้นทุกปี สมัยนี้เขาผ่อนผันลง แสดงว่าสมองคนแย่ลงไปเยอะ เขาผ่อนผันว่าให้เก็บทีละหมวดได้ หมวดพระวินัย ๒๑,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ได้ แล้วไปเก็บหมวดพระสูตร ๒๑,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ แล้วค่อยไปเก็บหมวดพระอภิธรรม ๔๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ แต่ว่าสมัยหลวงปู่วิจิตตะ ท่านท่องรวดเดียวเลย สมัยนี้ผ่อนผันให้มากแล้ว
ที่ไปดูเพราะมีพระไทยไปสอบด้วย ปัจจุบันนี้ท่านเก็บหมวดพระวินัยได้แล้ว แต่ที่เหลือก็ติดอยู่กับที่เหมือนเดิม เกรงอยู่อย่างเดียวว่าท่องขึ้นหน้ามาก ๆ เดี๋ยวถอยหลังมาจำไม่ได้ ก็จะสอบตกอีก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-05-2013 เมื่อ 02:28
|